วันที่ 22 ต.ค.64 นายรงค์ บุญสวยขวัญส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รายงานใน ครม.ว่าเมื่อกฎหมายลูก 2 ฉบับเสร็จสิ้นในเดือนก.ค. อาจมีแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาได้ ว่า การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอนอยู่แล้ว นายกฯ ก็บอกเองว่าไม่ยุบสภา เราก็ต้องเชื่อเพราะอำนาจอยู่ที่นายกฯ หรืออาจจะยุบก็ได้ถ้าเงื่อนไขเปลี่ยนไป การเมืองขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับปัจจัย ไทม์ไลน์เป็นสถานการปกติที่สามารถวางแผนได้ แต่การตัดสินใจทางการเมืองมันไม่อาจวางแผนได้ในบางคราวหรือบางสถานการณ์ ดังนั้น คนที่ทำงานการเมืองต้องตื่นตัว เพราะฉะนั้นจะมีไทม์ไลน์ออกมาอย่างไรเราก็ฟังหูไว้หู เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่ากลางปีหน้ามีโอกาสที่จะยุบสภาได้หรือไม่ หลังกฎหมายลูก 2 ฉบับเสร็จ นายรงค์ กล่าวว่า ถ้าพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่นงบประมาณถูกดึงไปใช้จนมีโครงการหรือผลงานออกมาจนประชาชนชื่นชอบ โควิดก็คลี่คลายแล้ว ปัญหาต่างๆ ก็เบาบางลงแล้ว เศรษฐกิจก็ดีขึ้นแล้ว ก็สามารถยุบได้ นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีหน้าเป็นช่วงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ซึ่งก็มีสิทธิยุบสภาได้เพราะจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเพื่อลงมติอีก ซึ่งก็คงจะดุเด็ดอยู่พอสมควร และยังมีการเมืองบนท้องถนนที่ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้เกิดการยุบสภาในช่วงนั้นได้ แต่ต้องดูว่าการชุมนุมบนท้องถนนจะจุดติดหรือไม่ เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้ง คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นจุดขายในภาคใต้ได้หรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า เชื่อว่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขายได้ในภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับภาคใต้ จริงๆ แล้วก็ให้ความสำคัญทุกภาค ดูแลประชาชนทุกภาค และให้ความช่วยเหลือประชาชนรวดเร็ว ประชาชนจึงชื่นชอบ