เมื่อวันที่ 21 ต.ค.64 นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ( 2 ) เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีชาวชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้พากันเดินทางมาฉีดวัคซีน ยี่ห้อ ชิโนฟาร์ม เข็มที่ 2 ต้องขอชื่นชมที่พากันมาฉีดวัคป้องกันโรคโควิด นับเป็นตัวอย่างที่ดี และ เชื่อได้ว่า เมื่อชาวชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวได้ฉีดวัคซีนแล้ว ชนเผ่าอื่น ๆ ก็คงจะฉีดตามมา เพื่อให้ยอดฉีดวัคซีนของแม่ฮ่องสอนเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมรับการเปิดการท่องเที่ยว สำหรับกะเหรี่ยงคอยาวบ้านห้วยปูแกง ซึ่งเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาว ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดกว่า แหล่งท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาว แห่งอื่น ๆ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ใช้ชีวิต ในรูปแบบของวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษ ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมา ซึ่งเป็นบ้านเดียวที่กระตือรือร้น ในการที่ต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด มากว่าหมู่บ้านชนเผ่าอื่น ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากมองเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวของจังหวัดในภาพรวม ที่พวกเขาต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว ว่าเดินทางมาเที่ยวแล้ว จะได้รับความปลอดภัย จากโรคโควิด เนื่องจากชนเผ่าที่เป็นหมู่บ้านแหล่งท่องเที่ยว ได้มีการฉีดวัคซีนจนครบ 2 เข็ม ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนจนครบ 2 เข็มแล้ว พวกเขาได้พากันมารวมตัวหน้าสถานที่ฉีดวัคซีนและพากันออกมาเชิญชวนให้ชนเผ่าอื่น ๆ พากันมาฉีดวัคซีนเหมือนพวกเขา โดยชูสโลแกนที่ว่า “ ฉีดแล้ว หายห่วง มาเที่ยวได้ “ นายชนก มากพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน (1 ) เปิดเผยว่า ตอนนี้ มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แทบทุกแห่ง ซึ่งเราจะต้องอยู่กับสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้ โดยให้ประชาชนทุกคน ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ให้รีบเดินทางไปขอรับการฉีดวัคซีน ตามสถานที่ที่ทาง สาธารณสุขจังหวัดจัดให้มีการบริการฉีดวัคซีนให้ฟรี ให้กับประชาชนทั่วไปและรวมไปถึงแรงงานต่างด้าว อนึ่งจากประวัติการระบาดในพื้นที่ของแม่ฮ่องสอน ไม่เคยมีประวัติว่า มีนักท่องเที่ยว นำเชื้อมาระบาดในพื้นที่ของจังหวัดแต่อย่างใด มีแต่การติดเชื้อและระบาดภายในจังหวัด และรับเชื้อมาจากจังหวัดอื่น ดังนั้นการเร่งฉีดวัคซีน จะเป็นการสร้างเกราะคุ้มกันการระบาดในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิดในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ล่าสุดวันนี้ ( 21 ) มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทั้งหมด 934 ชุด พบเชื้อ 28.ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดทั้งหมดโดยมีรายละเอียด ดังนี้ Case MS1281 เพศชาย อายุ 29 ปีที่อยู่บ้านห้วยโป่งแข่ หมู่ 8 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อาชีพรับจ้างก่อสร้าง/ทาสีที่ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และ กทม. เดินทางเข้า อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เข้าพักที่ Local quarantine วัดผาอ่าง ส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ Case MS1282-MS1284 รวม 3 ราย เพศชาย 2 ราย เพศหญิง 1 ราย ช่วงอายุ 6 - 43 ปี ที่อยู่บ้านขุนยวม ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ Case MS1258 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยัน Cluster โกดังขนแร่ ต.ขุนยวม ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขุนยวม Case MS1285-MS1302 รวม 18 ราย เพศชาย 7 ราย เพศหญิง 11 ราย ช่วงอายุ 8 เดือน - 55 ปี ที่อยู่บ้านผาสำราญ ต.เมืองแปง อ.ปาย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยัน Cluster ตลาดเมืองใหม่ ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลปาย Case MS1303 เพศชาย อายุ 57 ปี ที่อยู่บ้านสบแพม ต.ทุ่งยาว อ.ปาย อาชีพเกษตรกรรม เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ Case MS1271 (มีประวัติไปหักข้าวโพดร่วมกัน) ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปาย Case MS1304 เพศชาย อายุ 28 ปี ที่อยู่บ้านแม่นาจาง ม.1 ต.แม่นาจาง อ.แม่ลาน้อย อาชีพเกษตรกรรม เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของ Case MS993 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยัน Cluster บ้านแม่นาจาง ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง Case MS1305 เพศชาย อายุ 48 ปี ที่อยู่บ้านอมพาย ม.11 ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง อาชีพค้าขาย ทำงานที่ โรงคัดแยกกะหล่ำปลี บ้านแม่อมพาย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยยืนยัน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ และเป็นลูกจ้างที่ทำงาน ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลแม่สะเรียง Case MS1306-MS1308 รวม 3 ราย เพศชาย 2 ราย เพศหญิง 1 ราย ช่วงอายุ 1 - 45 ปีที่อยู่บ้าน ห้วยเหี๊ยะ ต.ป่าโปง อ.สบเมย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยัน Cluster บ้านห้วยวอก ตรวจ ATK ผลเป็นบวก และส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลสบเมย สรุป สถานการณ์ ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564 จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ระลอกเมษายน จำนวน 1,308 ราย เป็นเพศชาย 618 ราย และเพศหญิง 690 ราย เสียชีวิต 13 ราย (0.99%) รักษาหายแล้ว 825 ราย (63.07%) ยังอยู่ระหว่างรักษา 470 ราย.(35.94%) มีอาการเล็กน้อย 426 ราย ปานกลาง 37 ราย และรุนแรง 7 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 9 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 11 ราย โรงพยาบาลปาย 21 ราย โรงพยาบาลสบเมย 28 ราย โรงพยาบาลขุนยวม 3 ราย โรงพยาบาลแม่ลาน้อย 8 รายโรงพยาบาลสนาม 206 ราย และรักษาในศูนย์แยกกักโรคชุมชน (CI) 184 ราย