พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดปราสาทอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี แตก ไม่ถึง 5 นาที น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 300 หลัง ระดับน้ำสูงเกือบมิดชั้น 2 ส่วน"เมืองโคราช"อ่วมมวลน้ำเอ่อล้น 2 ฝั่งลำตะคอง ท่วมถนนชุมชนโรงเรียนสถานีขนส่งฯจม ระดับน้ำสูง 05.-1 เมตร จ่อทะลักรพ.มหาราชฯ ด้าน"นายกฯ"สั่งทุกหน่วยงานลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือชาวโคราชที่ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ว่า พนังกั้นน้ำช่องว่างของเขื่อนเจ้าพระยาพัง และมีมวลน้ำมหาศาลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 320 หลังคาเรือน อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเข้าท่วมได้ เพราะเพียงแค่ 5นาที น้ำท่วมเข้าบ้านใกล้กับเขื่อนสูงประมาณ 1.6เมตร เกือบมิดชั้น 2 ชาวบ้านต่างเร่งนำรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ไปจอดยังถนนสิงห์บุรี-ชัยนาท สายเก่า และพยายามเก็บข้าวของที่จำเป็น แต่ผลสุดท้ายบ้านที่อยู่ใกล้เขื่อนบริเวณวัดปราสาทอินทร์บุรีก็ไม่สามารถเก็บของได้ทัน บางบ้านเก็บไม่ทันแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ไม่มีติดตัว ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มวลน้ำจากลำน้ำลำตะคอง ได้ไหลล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาหลายจุด ตลอดแนวลำตะคองไหลผ่านกลางเมืองโคราช เช่นที่ ชุมชนมิตรภาพซอย 4 , ชุมชนสำโรงจันทร์, ชุมชนตะคองเก่า , หมู่บ้านวีไอพี โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2 และถนนมิตรภาพ ตั้งแต่หน้าสถานีขนส่งฯแห่งที่ 2 ท่วมยาวจนถึง แยกประโดก-โคกไผ่ , ชุมชนวัดอีสาน , ชุมชนวัดศาลาลอย และ ชุมชนมหาชัย ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ยกว่า 30-50 เซนติเมตร (ซม.) บางจุดใกล้ริมน้ำสูงถึง 1 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 1,000 หลัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณถนนช้างเผือก ถนนทางเข้า-ออก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์นครราชสีมา ขณะนี้มวลน้ำในลำตะคองได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นผิวถนน เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ระดับน้ำสูงกว่า 50-80 ชม. รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทหารกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิพุทธรรมการกุศล ( ฮุก 31) นครราชสีมา และกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมนำรถบรรทุก และรถยนต์กระบะยกสูง ไปให้บริการรับ-ส่งขน ย้ายผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่บุคลากรการแพทย์ รวมถึงประชาชน ในการเดินทางเข้า-ออกโรงพยาบาล ส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนที่ถูกน้ำท่วม เป็นได้ด้วยลำบากและติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ต้องระดมกำลังอำนวยความสะดวกช่วยเหลือประชาชนตลอดทั้งวัน ขณะที่ภายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีจุดที่น้ำลำตะคองรั่วเข้ามาได้ เช่น บริเวณอาคารศูนย์มะเร็ง ห้องฉายรังสี 1 -2 ด้านข้างที่ติดลำตะคอง จุดนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องสูบน้ำเร่งทำการสูบน้ำออก โดยระดับน้ำสูง 50 ซม. และเร่งนำกระสอบทรายทำการอุดรูรั่วอย่างเร่งด่วนแล้ว ล่าสุด ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 315 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) คิดเป็น 100% ของความจุเที่ 314 ล้านลบ.ม. โดยยืนยันว่าขณะนี้เขื่อนลำตะคองยังไม่ได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนแต่อย่างใด เพราะถึงแม้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคองจะเต็มความจุแล้วแต่ได้ออกแบบมาให้ยังสามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกประมาณ 50 ล้านลบ.ม. ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณวันละ 4 ล้านลบ.ม. และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยชลประทานนครราชสีมา จะรอให้มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลผ่านเขตเมืองนครราชสีมาไปก่อน แล้วจึงจะค่อยทำการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคองลงสู่ท้ายเขื่อน วันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายหลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานทุกภาคส่วนลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมแสดงความห่วงใยประชาชนในทุกพื้นที่ที่ รวมถึงให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการทำงาน ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อม นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระดับน้ำหน้าโรงพยาบาลมหาราชและภายในโรงพยาบาลมหาราช พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รถยกสูงและเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ของหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากโรงพยาบาลมหาราชและเร่งวางกระสอบทรายตามจุดต่างๆเพื่อป้องกันน้ำเข้าภายในโรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา “นายกฯ เป็นห่วงประชาชนในทุกพื้นที่ ที่ประสบปัญหาอุทกภัย และยังได้สั่งการทุกภาคส่วนลงพื้นที่ช่วยประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้หากนายกฯ มีโอกาสจะลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อไปดูแล รับฟังปัญหาให้มากที่สุด และตนเองในฐานะเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา แสดงความเป็นห่วง และขอให้กำลังใจชาวจังหวัดนครราชสีมาเช่นกัน เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว” นายวิเชียร กล่าว