วันที่ 15 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อำเภอกระทุ่มแบน นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เผยหลังลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบความคืบหน้ากรณีงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงสถานีสูบน้ำพร้อมอาคารประกอบประตูน้ำคลองภาษีเจริญ (แห่งใหม่) พร้อมด้วยนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หน.สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมติดตาม โดยมี จนท.ฐานะผู้รับผิดชอบให้การต้อนรับ และบรรยายเป้าหมายก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบำรุงรักษาของโครงการส่งน้ำและระบายฯ ฐานะในสังกัด สนง.ชลประทานที่ 11 ซึ่งตั้งอยู่เขต อ.กระทุ่มแบน โดย นายปิยะ ลืออุติกุลวงศ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ และนายสากล ชลคีรี ผอ.โครงการชลประทานสมุทรสาคร มาร่วมรายงานผลความคืบหน้าดังกล่าว ทั้งนี้โดยความเป็นมาของการคิดก่อสร้างและพัฒนาสถานีสูบน้ำคลองภาษีเจริญในครั้งนี้ จากเหตุก่อนจัดจัดทำขึ้นภายหลังด้วยเหตุเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ (เมื่อปลายปี 2554) กระทั่งในพื้นที่ต้องมีปัญหาน้ำท่วมอย่างกว้างขวาง เบื้องต้นปรากฏว่า เหตุจากการระบายปริมาณน้ำนั้นไม่เพียงพอจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญคลองภาษีเจริญซึ่งเป็นสายน้ำหลักๆหลักสำคัญ และเกี่ยวข้องกับการร่วมรับน้ำเหนือและจากในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ตลอดจนสามารถช่วยระบายน้ำในแถบกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อออกสู่ทะเลช่วงปากอ่าวมหาชัย ด้วยเหตุนี้ทางกรมชลฯ ก็ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อมาให้ดำเนินการสร้างสถานีสูบน้ำและอาคารประกอบภาษีเจริญ (เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง) เพื่อวัตถุประสงค์หวังเพิ่มประสิทธิภาพแก่การทำงานสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ ทั้งนี้ก็เพราะจะเพิ่มศักยภาพในการช่วยงานไล่ระบายน้ำทั้งในพื้นที่ และเขตลอยต่อจังหวัด ก่อนดันส่งออกสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้นต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองสมุทรสาคร และนอกเขตพื้นที่ คือ แถบลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง (ฝั่งตะวันตก) ตลอดจนของพื้นที่ของนิคนอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ด้วย โครงการใหม่นี้มีอาคารสร้างใหม่ด้วย ในรูปแบบลักษณะประกอบตัวอาคารของสถานีสูบน้ำที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 28.00 เมตร และยาว 40.60 เมตร ด้านส่วนการระบายน้ำได้จำนวน 3 ช่อง พร้อมมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ในอัตราสูบรับน้ำ 15 ลูกบาศก์เมตร /วินาที รวมทั้งสิ้น 3 เครื่อง ในอาคารที่ครอบคลุมขนาดกว้าง 18.00 เมตร ยาว 28.00 เมตร มีกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กในอาคารล้อมรอบ พร้อมม่านกำแพงเหล็กบังน้ำในขนาด 6.00 เมตรไว้อีก 2 ช่อง อย่างไรก็ดีสถานีสูบน้ำหรือประตูน้ำภาษีเจริญ ซึ่งแห่งนี้จะเริ่มทำการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งทำเตรียมเปิดใช้งานได้ทั้งระบบ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้สามารถรับมือเรื่องน้ำท่วมได้ทุกสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนที่ช่วยไล้ระบายน้ำส่งออกได้ไปลงทะเลได้ทันที” นายณรงค์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร กล่าวว่า หลังที่ตนได้มาสำรวจความพร้อมใช้ซึ่งค่อนข้างมั่นใจซึ่งปรากฏว่า มีความพร้อมใกล้ใช้งานเกือบ 100 % เหลือแค่ไล่ติดตั้งระบบไฟฟ้าอีกบางส่วนของสถานแห่งใหม่นี้ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่า คงจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักแบบในปี 2554 ท่ามกลางสภาวะฉุกเฉินตามที่มีรายงานไว้ข้างต้น ด้วยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญหรือสถานีดังกล่าวเพราะมีมีประสิทธิภาพที่จะช่วยลดผลกระทบกับ ปชช.ชาวสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน