เมื่อเวลา 12.35 น. วันที่ 14 ต.ค. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยได้เรียกนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายชัยวุฒิ ธมาคนานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมาร่วมแถลงข่าวด้วย ทั้งนี้นายกฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่อยากประกาศในวันนี้ คือเรื่องที่ตนได้แถลงการณ์ เรื่องเตรียมการเปิดประเทศในเดือนพ.ย. และมาตรการผ่อนคลายในเดือน ธ.ค. ซึ่งมีหลายเรื่องที่นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมศบค. สำหรับรายชื่อประเทศที่จะเข้ามาในไทยโดยไม่ต้องกักตัวจะมีการกำหนดมาตรการ และเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน และขึ้นอยู่กับประเทศต้นทาง เราพยายามทำให้เกิดความร่วมมือกันทั้งส่วนราชการ ประชาชนและภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อมให้ทันกำหนดเวลาตามที่เราได้ประกาศไปแล้ว นายกฯ กล่าว อีกทั้งมาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย ตลอดจนต้องมีมาตรการรองรับพวกเราในฐานะเจ้าของบ้าน ที่จะทำอย่างไรให้เกิดความพร้อมให้มากที่สุด โดยเราต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในเดือนต.ค. และพ.ย. ในการพิจารณามาตรการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทั้งนี้อาศัยกรอบด้านสาธารณสุขมาใช้ในการพิจารณาด้วย วันนี้เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมที่จำเป็นทุกอย่างไว้ให้พร้อมในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการเดินทางของผู้ที่มาจากประเทศต่างๆ มีหลายประเทศที่ได้มีข้อเสนอหรือมีความต้องการจะเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเราขอพิจารณาอย่างรอบคอบ และต้องใช้เวลาต่อจากนี้ในการเตรียมมาตรการต่างๆ ในการปรับประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพราะเราตั้งหลักเกณฑ์เรื่องนี้มานาน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปมากพอสมควร “วันนี้ผมยืนท่ามกลางภาครัฐและเอกชน ทั้งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) หอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ฝ่ายรัฐ คณะรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข โดยมีรองนายกรัฐมนตรี 2 ท่านที่ติดภารกิจเยี่ยมประชาชน ท่านแรกไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม และอีกท่านไปตรวจสถานการณ์ในภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องดูแลพื้นที่เหล่านั้นด้วย วันนี้ผมและพวกเราอยากขอความร่วมมือจากประชาชนว่าเรื่องนี้อย่างน้อยจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ช่วยให้ประชาชนหลายๆ ได้เริ่มกลับมาทำมาหากิน กลับมาตั้งตัวได้ดีอีกครั้ง ซึ่งเราต้องมีความพยายามในการดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามาในไทยมากขึ้น ให้สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศไทย และดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่นเดียวกับที่หลายๆประเทศกำลังทำอยู่”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นายกฯ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า เวลาที่คนไทยจะร่วมมือกัน เราจะสามารถทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้เสมอ และตนทราบดีว่าทุกฝ่ายต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ภายใน 2 สัปดาห์ที่เหลือนี้ ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน และภาคเอกชนที่มาร่วมมือกัน ตลอดจนกระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบพื้นที่ต่างๆและพื้นที่ท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน มาตรการต่างๆไม่ได้ใช้รองรับเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ยังใช้รองรับคนไทยที่กลับจากต่างประเทศด้วย โดยมีหลายมาตรการที่ต้องมีการหารือในรายละเอียดกันอีกครั้ง “วันนี้ผมยืนยันความพร้อมของเรา ที่จะจับมือเดินไปด้วยกันในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาอีกครั้งตามศักยภาพที่เรามีอยู่มากมายในขณะนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนและจากชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ช่วยกันทำความเข้าใจว่าประเทศไทยมีความพร้อมมากแค่ไหน อย่างไร ขอขอบคุณครับ” นายกฯ กล่าว