เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ต.ค. ที่ กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี ผู้เสียหายจำนวน 20 ราย นำโดย น.ส.ยุ (นามสมมุติ) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศุภวุฒิ กิตติศุภคุณ ผกก.(สอบสวน) บช.สอท. เพื่อยื่นหนังสือแจ้งพฤติกรรมการขายสินค้าของแม่ค้าออนไลน์กลุ่มหนึ่งที่มีการหลอกขายสินค้าประเภทที่นอนยางพารา โดยผู้เสียหายเรียกตัวเองว่า "กลุ่มมหากาพย์ที่นอนยางพารา" ได้รวมตัวกันเมื่อวันที่ 17 พ.ค.63 เป็นการรวมตัวกันของผู้เสียหายที่ได้ติดต่อซื้อสินค้าประเภทที่นอนยางพารา หมอยางพารา กล่องรองเท้า แมส เป็นต้น ผ่านทางออนไลน์ แล้วไม่ได้รับสินค้าตามที่ได้สั่งซื้อไปจากเพจเฟซบุ๊กบัญชีต่างๆ เช่น น้องของขวัญนำเข้าสินค้าราคาโรงงาน / ถุงเงิน/ Bedroom / Best Slumber ที่นอนในฝัน / Sweet Dream Luxury ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Luxury Latex & Mattressชื่อเดิม ร้านขายส่ง / Child วังเด็กเปลี่ยนชื่อเป็น Child palace วังเด็ก Luxury เปลี่ยนชื่อเป็น Luxury Latex & Matress / Hiso / Cipstha จิปาถะ / ถูกกว่าห้าง / บางพาราเด็ก / Everrything แล้วฉันจะพาไป เป็นต้น โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้ทำการเปิดเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อขายสินค้าผ่านออนไลน์ มีลักษณะร่วมกันทำเป็นขบวนการ ดำเนินการหลอกลวงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน ผู้เสียหายในกลุ่มมหากาพย์ที่นอนยางพาราในขณะนี้รวบรวมจำนวนได้มากกว่า 900 คน และมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายนั้นเฉพาะผู้เสียหายในกลุ่มมหากาพย์ที่นอนยาพาราเท่านั้น ยังมีผู้เสียหายที่ได้รวมตัวกันในกลุ่มอื่นๆ อีกต่างหาก แม่ค้าออนไลน์รายนี้ได้ถูกดำเนินคดีจากผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว และถึงแม้มีคำพิพากษาจากศาลที่ได้ตัดสินว่าแม่ค้าออนไลน์รายนี้ได้กระทำการฉ้อโกงจริงแต่ศาลได้ทำการรอลงอาญาเอาไว้ และปัจจุบันแม่ค้าออนไลน์รายนี้ก็ยังกระทำการเปิดเพจเฟสบุ๊กใหม่อีกเป็นจำนวนมากเพื่อทำการขายสินค้าและได้กระทำพฤติกรรมฉ้อโกงเช่นเดิม ซึ่งก่อให้เกิดผู้เสียหายเพิ่มขึ้น อีกเป็นจำนวนมาก ทางกลุ่มมหากาพย์ที่นอนยางพาราได้ดำเนินเรื่องไปตามหน่วยงานของรัฐเพี่อพยายามหยุดยั้งพฤติกรรมดังกล่าว แต่ไม่บังเกิดผล มีความจำเป็นต้องมายื่นร้องให้ บช.สอท. ที่รับผิดชอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้หยุดยั้งการกระทำดังกล่าวและเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนไม่ให้กลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรายนี้เพิ่มขึ้นอีก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบพบข้อมูลหลักฐานพบว่ามีการดำเนินเนินคดีกับมิจฉาชีพกลุ่มนี้แล้ว หลายคดี ก่อนจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อสินค้า และเครื่องนอนจากยางพาราเข้าร้องทุกข์ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. กรณีที่ถูก นางสาวชนิสรา และนายชัยรัตน์ สองสามีภรรยา และเครือญาตหลอกขายผลิตภัณฑ์จากยางพาราและเครื่องนอน เพื่อให้ช่วยดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อเหตุเพราะมีพฤติการณ์หลอกลวงมาตั้งแต่มาตั้งแต่ปี 2560 แต่คดียังไม่คืบหน้า มีผู้เสียหายกว่า 900 คน รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ผู้เสียหาย เล่าว่า แรกเริ่มเดิมทีผู้ก่อเหตุได้เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ น้องของขวัญราคาโรงงาน โพสต์ขายผลิตภัณฑ์ยางพาราและเครื่องนอน ในระยะแรกก็ส่งของให้ตามปกติ จนมาเริ่มออกลายไม่ยอมส่งของให้กับลูกค้า ตั้งแต่เริ่มก่อเหตุในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยนชื่อเพจมา 14 ครั้ง ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนชื่อตัวเองอีกหลายครั้ง โดยร่วมมือกับเครือญาติทำเป็นขบวนการ ซึ่งนางสาวชนิสรา และนายชัยรัตน์ มีหมายจับในคดีฉ้อโกงกว่า 20 หมายจับ และอยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นศาลอีกหลายคดี แต่ก็ยังมีเสียหายอีกจำนวนมาก ที่คดียังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเมื่อรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายนำมาพิมพ์ลงกระดาษเป็นบัญชีรายชื่อ มีความยาวกว่า 5 เมตร มิหนำซ้ำเมื่อเมื่อผู้เสียหายไปโพสต์ทวงเงิน หรือไปแจ้งความดำเนินคดี กลับถูกผู้ก่อเหตุไปฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้เสียหาย ในข้อหาหมิ่นประมาท, พอไปทวงเงินก็ถูกแต้วความข้อหาบุกรุก เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีทีมกฎหมายไว้สู้คดีโดยเฉพาะ ในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทางผู้เสียหายได้ไปร้องทุกข์กลับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง เช่น บก.ปอศ., บก.ปอท., บก.ปคบ., ปปง. และสคบ. แต่คดีก็ไม่คืบหน้า โยนกันไปโยนกันมา จนผู้เสียหายท้อแท้ ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หวังที่จะได้เงินคืน แต่อยากให้งานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุได้อีก เพราะที่ผ่านมามีการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังลอยนวลหลอกลวงมาได้จนถึงทุกวันนี้