ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่หรือนาแปลงใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนาแปลงใหญ่จังหวัดขอนแก่นปีงบประมาณ 2564 มีทั้งหมด จำนวน 129 แปลงเกษตรกร 6,358 ราย พื้นที่ 69,575.75 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 20 อำเภอในจังหวัดขอนแก่น แปลงใหญ่ข้าวบ้านโนนพะยอม ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่นได้เข้ามาส่งเสริม ให้มีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ผลิตข้าวได้คุณภาพมาตรฐาน จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน นายมงคล จันทร์ประทัด ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่แปลงใหญ่ของบ้านโนนพะยอม อำเภอน้ำพอง มีสมาชิกร่วมโครงการแปลงใหญ่อยู่ทั้งหมด 67 ราย พื้นที่ทำแปลงข้าวทั้งหมด 770 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงข้าวที่มีทั้ง ข้าวเหนียว กข6 และข้าวเจ้าขาวดอกมะลิ 105 กรมการข้าวได้คัดเลือกให้แปลงใหญ่บ้านโนนพะยอมเข้าร่วมโครงการกับกรมการข้าวโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่นเมื่อปี พ.ศ.2561 ซึ่งเมื่อร่วมโครงการแล้วศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่นได้มอบหมายนักวิชาการ และเจ้าหน้าที่โครงการ ออกมาให้คำแนะนำเรื่องการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว และการผลิตข้าวคุณภาพตามมาตรฐาน GAP และมาตรฐานข้าวอินทรีย์ โดยมีการให้ความรู้และติดตามกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมเมล็ดพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การป้องกันกำจัดโรคแมลง การให้ปุ๋ย การตรวจตัดพันธุ์ปน จนถึงการเก็บเกี่ยวและการลดความชื้นหลังการเก็บเกี่ยวให้ข้าวมีคุณภาพ ทั้งด้านเมล็ดพันธุ์ข้าว และด้านข้าวคุณภาพตามมาตรฐาน GAP อินทรีย์ พร้อมสนับสนุนเครื่องจักรอุปกรณ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการให้โครงการแปลงใหญ่ของกลุ่มนี้ได้ประสบผลสำเร็จต่อไป นายอภิชาติ การุญ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวบ้านโนนพะยอม เปิดเผยว่า เดิมการทำนาแบบต่างคนต่างทำ ต้นทุนสูง ทำแบบไม่มีความรู้ด้านวิชาการ พอเรามารวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ก็จะมีนักวิชาการจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น จากกรมส่งเสริมการเกษตร จากกรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาให้ความสำคัญ ให้ความรู้ด้านวิชาการ และมอบปัจจัยการผลิต เมื่อเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งแล้ว เห็นได้ชัดว่าสามารถลดต้นทุนได้เยอะ จากแต่ก่อนทำนาแบบนาหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวจะใช้ในปริมาณเยอะ พอมาผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวใช้เอง ปรับเปลี่ยนวิธีปลูกเป็นนาหยอด และมีการคลุกไตรโคเดอร์มากับเมล็ดพันธุ์แล้วนำไปปลูกจะลดพวกโรคใบไหม้ โรคเชื้อรา ได้เยอะ เมื่อก่อนไม่ได้ทำเวลาปลูกไปแล้วเกิดเชื้อรา ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อพวกสารเคมีในการควบคุม เมื่อลดต้นทุนทุนการผลิตได้แล้วเมล็ดพันธุ์ข้าวก็ได้เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน 1 ไร่ ถ้าในเขตพื้นที่ชลประทานนี้จะได้อยู่ประมาณ 500 กิโลต่อไร่ แต่เดี๋ยวนี้ 560-570กว่ากิโลต่อไร่ นี่คือผลดีที่กลุ่มได้เข้าร่วมแปลงใหญ่ นอกจากส่งผลให้นาแปลงใหญ่บ้านโนนพะยอมมีความเข้มแข็งด้านการผลิตข้าวได้คุณภาพดีแล้ว สมาชิกก็ร่วมมือร่วมใจ แบ่งหน้าที่ชัดเจนแล้ว มีการเพิ่มมูลค่าข้าว หาช่องทางการตลาด เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย ด้านนายบุญทัน กันยาเนียม ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนพะยอม เล่าว่า เมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยวนอกจากจะผลิตเมล็ดพันธุ์แล้ว กลุ่มยังมีการแปรรูปข้าว โดยการรวมกลุ่มและแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน มีฝ่ายสีข้าวมีการแปรสภาพ หรือว่าแปรรูปข้าว ก็นำข้าวไปทำการแปรูป จากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร เมื่อเป็นข้าวสารแล้วก็จะนำมาทำการคัดแยกพวกกากทำความสะอาด ก่อนจะมาทำบรรจุเป็นแพ็คสูญญากาศหรือว่าเป็นแพ็คตามความต้องการของสมาชิกและช่องทางการตลาด ซึ่งช่องทางการตลาดของกลุ่มก็จะมีทั้งพนักงานโรงงาน SCG โรงงานไฟฟ้า พานาโซนิค แล้วก็ทั่วไปที่มีสั่งเข้ามาช่องทางออนไลน์ เมื่อได้มาแปรรูปและส่งขายแล้วก็ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของสมาชิกดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นในครอบครัว แล้วก็มีการปันหุ้นให้กับสมาชิกอีกด้วย ถ้าได้เยอะก็ปันเยอะ ถ้าได้น้อยก็ปันตามที่ได้ อันนี้ก็คือรายได้จากที่ได้รวมกลุ่มกันทำรวมกลุ่มกันผลิตจนประสบความสำเร็จ