ทพ.เจตณัฐ ทัศนานุตริยกุล บัณฑิตคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง ได้รับคัดเลือกจากมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้เป็นบัณฑิตทันตแพทย์เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2564
รางวัลบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม เป็นรางวัลที่มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก มอบให้บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ มีคุณสมบัติเหมาะสมตามแนวทางที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย” ได้ทรงวางแนวทางไว้ เพื่อเป็นกำลังใจ และเป็นเครื่องเตือนใจให้คงความดีไว้ต่อไป
เจตณัฐ กล่าวว่ารางวัลบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ทางมูลนิธิฯ จะพิจารณาจากคุณสมบัติรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 และมีผลการเรียนดีสม่ำเสมอ มีผลงานการทำกิจกรรม และยึดมั่นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งตนได้รับคัดเลือกจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ให้เป็นตัวแทนเข้ารับการพิจารณารางวัลจากมูลนิธิฯ ซึ่งในปีนี้มีบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้ารับการคัดเลือกจำนวน 11 คน จาก 11 มหาวิทยาลัย
เจตณัฐ มีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ และยังได้เข้าร่วมการแข่งขันในเวทีต่างประเทศหลายรายการ รวมถึงได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมวิชาการทางด้านทันตแพทย์ในระดับนานาชาติอีกด้วย
ทำไมถึงเลือกเรียนทันตแพทย์ จุฬาฯ
ย้อนไปสมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เคยมาร่วมงานจุฬาฯ วิชาการ และงาน Open House ของจุฬาฯ ได้มีโอกาสทำแล็บกรอฟัน อุดฟันที่คณะทันตแพทย์ จุฬาฯ รู้สึกประทับใจในงานด้านนี้และความมีชื่อเสียงของคณะ นอกจากนี้ ยังมีคุณพ่อเป็นแบบอย่างของทันตแพทย์ที่ดี ได้เห็นการทำงานของคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจเลือกเรียนทันตแพทย์ จุฬาฯ คิดว่าการเป็นทันตแพทย์สามารถ เติมเต็มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ที่มีปัญหาทางด้านทันตกรรมให้สามารถเข้าสังคมและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ใช้ชีวิตในรั้วทันตแพทย์ จุฬาฯ มีความประทับใจเกิดขึ้นมากมาย นิสิตในคณะมีความสนิทสนม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มากไปกว่านั้นอาจารย์ให้คำปรึกษาและให้การดูแลใกล้ชิด อาจารย์มีประสบการณ์ในการทำวิจัยและการทำคลินิก ทำให้ได้รับความรู้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ ในการจบมาเป็นทันตแพทย์ที่ดีอีกด้วย
เรียนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
มีแค่ 2 คำสั้นๆ คือตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และแบ่งเวลาให้เหมาะสม เราต้องรู้ก่อนว่าอยากทำอะไร ไปในทิศทางไหน หลังจากนั้นวางแผนบริหารเวลาให้เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่คติที่ใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต คือมัชฌิมาปฏิปทา การเดินทางสายกลางถึงแม้เราจะมีเป้าหมายที่ตั้งมั่นปรารถนาอย่างสูงที่จะไปสู่ความสำเร็จแต่ต้องไม่ลืมว่าการทำอะไรที่มากเกิน ก็จะให้ประสิทธิภาพเราแย่ลง ทำให้เกิดความท้อแท้หมดไปเร็วเกินไป ฉะนั้นต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เพื่อให้การดำเนินชีวิตของเราไปสู่ความสำเร็จได้อย่างงดงาม
หลักในการเรียนและการแบ่งเวลา
การเรียนอย่างเดียวทำให้เหนื่อยและเครียดสะสม ต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม การทำกิจกรรมนอกจากจะช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้ความเครียดลดลงแล้ว ยังให้ประสบการณ์ในการพัฒนาตนเอง ทำให้รู้จักการวางแผน ทำงานเป็น และที่สำคัญทำให้เราโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ
วางแผนอนาคตไว้อย่างไร
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่คลินิกรักฟัน จ.สุพรรณบุรี และจะเดินทางไปศึกษาต่อทางด้านทันตกรรม จัดฟันที่สหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศกลับมาพัฒนาวงการทันตกรรม ในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศมีคุณภาพชีวิตทางด้านทันตกรรมที่ดีขึ้น เป็นเครื่องย้ำเตือนให้ตั้งใจอุทิศตนเพื่อสังคมไทยต่อไป
คุณสมบัติของทันตแพทย์ที่ดี
อย่างแรกต้องมีคุณธรรม เพราะถ้าทันตแพทย์ใช้ความรู้ความสามารถไปในทางที่ผิดก็จะส่งผลเสียกับคนไข้ รวมถึงวิชาชีพทันตแพทย์ด้วย นอกจากนี้ต้องเป็นผู้ที่มีใจใฝ่เรียนรู้ เพราะในโลกยุคปัจจุบันนวัตกรรมเปลี่ยนเร็วมาก วิธีการรักษาก็เปลี่ยน การจะเป็นทันตแพทย์ที่ดีในยุคนี้จะต้องศึกษาเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากการเรียนรู้แล้วยังต้องฝึกฝนตนเองให้มีความชำนาญอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมีประสบการณ์ที่หลากหลายให้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน การทำกิจกรรมต่างๆ การเรียนทำให้เราเป็นคนเก่ง แต่ว่าการทำกิจกรรมจะสอนให้เราเป็นคนดีและทำงานเป็น ซึ่งคนเก่งอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต จะต้องเป็นคนดี และทำงานเป็นด้วย” เจตณัฐ กล่าวทิ้งท้ายถึงน้องๆ รุ่นหลัง