ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ 52 ปีแล้วที่ ซีซี ท็อป เริ่มต้นมา หลังจากขายอัลบั้มได้มากกว่า 50 ล้านชุดทั่วโลก และได้รับการบันทึกเข้าสู่หอเกียรติยศแห่งร็อก แอนด์ โรลล์ อนาคตต่อจากนี้ไปยังไม่มีใครรู้ บิลลี กิบบอนส์ เด็กหนุ่มนักกีตาร์และนักร้องจากวง มูฟวิง ไซด์วอล์คส์ ที่เลิกรากันไป ร่วมกับ ลาเนียร์ เกร็ก มือเบสส์ และ แดน มิทเชลล์ มือกลอง ก่อตั้งวงร็อคใหม่ในฮูสตัน, เทกซัสเมื่อปี 1969 โดยชื่อของวง ซีซี ท็อป นำมาจากศิลปินบลูส์ชั้นตำนาน 2 คน คือ บี.บี. คิง และ ซี.ซี. ฮิลล์ ตอนแรกจะใช้ชื่อ ซี.ซี. คิง แต่เห็นว่าคล้ายชื่อต้นฉบับมากเกินไป กิ๊บบอนส์ จึงเปลี่ยนเป็น ท็อป ด้วยเหตุผลที่ว่า กษัตริย์ก็คือผู้ที่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แต่มือเบสและมือกลองอดทนรอไม่ไหวที่จะได้ทำสัญญากับบริษัทแผ่นเสียง จึงลาออกไป กิบบอนส์ ได้เพื่อน 2 คนจากวง อเมริกัน บลูส์ เข้ามาแทน นั่นคือ แฟรงค์ เบียร์ด มือกลอง และ ดัสตี ฮิลล์ มือเบส นี่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่แท้จริง ซีซี ท็อป เล่นดนตรีร็อคด้วยอิทธิพลของบลูส์ กิบบอนส์ เป็นผู้เขียนเพลงและเรียบเรียงดนตรีหลักของวง ความพยายามเบื้องต้นไม่ได้รับความสนใจจากสังกัดเพลงในอเมริกา แต่พวกเขาได้เซ็นสัญญากับ ลอนดอน เรคอร์ดส์ สังกัดย่อยในเครือ เด็คคา บริษัทเพลงยักษ์ใหญ่จากอังกฤษในเวลานั้น หลังจาก 2 อัลบั้มแรก ZZ Top's First Album (1971) และ Rio Grande Mud (1972) ซีซี ท็อป ก็เริ่มเป็นที่กล่าวขวัญจากการแสดงสดที่สนุกสนาน, ฝีมือเหนียวแน่น และมีอารมณ์ขัน ทำให้อัลบั้มที่ 3 และ 4 - Tres Hombres (1973) และ Fandango! (1975) ขึ้นไปติดท็อป 10 และมีคอนเสิร์ทไม่หยุดหย่อน มีเกร็ดครั้งหนึ่งเล่าว่า ซีซี ท็อป เคยเล่นเปิดวงให้ ซานตานา ซึ่งเป็นวงโด่งดังในขณะนั้น การตอบสนองของผู้ชมที่เมามันกับ ซีซี ท็อป ทำให้ผู้จัดการของ ซานตานา ต้องตัดเวลาของพวกเขาให้สั้นลง เพราะกลัวจะแย่งความสำคัญของวงเอก ในปี 1976 ซีซี ท็อป ออกอัลบั้ม Tejas เป็นชุดสุดท้ายกับ ลอนดอน เรคอร์ดส์ ก่อนจะหยุดพักไป 3 ปี และกลับมาด้วยอัลบั้ม Degüello (1979) ในสังกัด วอร์เนอร์ บราเธอร์ส พร้อมภาพลักษณ์ซึ่งเป็นที่จดจำ คือการไว้เครายาวของ กิบบอนส์ และ ฮิลล์ ซีซี ท็อป ขึ้นสู่ความสำเร็จระดับสูงและขยายขอบเขตผู้ฟังออกไปในวงกว้างเมื่อออกอัลบั้ม Eliminator (1983) ปรับเปลี่ยนดนตรีให้ร่วมสมัยขึ้นด้วยการใส่เสียงซินธิไซเซอร์และอีเล็คทรอนิคแบบนิวเวฟจากฝั่งอังกฤษเข้าไปผสมผสานกับดนตรีของตน ผลก็คือ ไม่เพียงได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ ยังมีเพลงฮิทถึง 4 เพลง ได้แก่ "Gimme All Your Lovin'", "Legs", "Got Me Under Pressure" และ "Sharp Dressed Man" และตัวอัลบั้มขายได้มากกว่า 10 ล้านแผ่น อัลบั้มต่อมา Afterburner (1985) แม้ว่าจะขายได้น้อยกว่า Eliminator (5 ล้านชุด) แต่กลายเป็นอัลบั้มที่ติดอันดับสูงสุดของวง คือติดที่อันดับ 4 บนตาราง บิลล์บอร์ด ตามด้วยอัลบั้ม Recycler (1990) ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายกับ วอร์เนอร์ และเป็นชุดสุดท้ายที่พวกเขาใช้สุ้มเสียงของยุคสมัยนั้น ก่อนจะกลับมาเป็นวงกีตาร์เด่นเหมือนเดิม จากต้นทศวรรษ 1990 กระแสดนตรีจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้วงจากยุค 70 และ 80 ส่วนใหญ่ ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิม หลายวงเลิกรา หลายวงหยุดสร้างผลงานใหม่ แต่ ซีซี ท็อป ยังทำงานอัลบั้มออกมาเป็นระยะ เพียงทิ้งช่วงค่อนข้างห่างสักหน่อย โชคดีที่พวกเขามีฐานแฟนเพลงเหนียวแน่น นอกจากอัลบั้มยังขายได้ตามสมควร ซีซี ท็อป ยังเป็นที่ต้องการของผู้ชมคอนเสิร์ตเสมอมา ทั้งจากแฟนเพลงเก่า และคนรุ่นใหม่ที่ได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือ กลางปี 2020 ซีซี ท็อป ประกาศว่ากำลังทำอัลบั้มชุดใหม่ ขณะที่ยังคงออกทัวร์สม่ำเสมอ จนกระทั่ง ดัสตี ฮิลล์ ต้องออกจากทัวร์กลางคัน และเสียชีวิตในวัย 72 ปี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา จากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่สะโพก แม้ กิบบอนส์ จะบอกว่า วงจะเดินหน้าต่อไปตามความปรารถนาของ ฮิลล์ ที่ฝากไว้ โดยให้ เอลวูด ฟรานซิส เข้ามาแทนในตำแหน่งเบส และ ฮิลล์ ได้บันทึกเสียงในอัลบั้มที่ยังไม่ออกเรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครคาดหมายอนาคตของวงได้ เพราะ กิบบอนส์ เองก็เพิ่งปล่อย Hardware อัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 ของเขาออกมา อย่างไรก็ตาม จะเดินต่อหรือหยุดเพียงเท่านั้น 52 ปีที่ผ่านมา ซีซี ท็อป ก็ได้ปักหมุดหมายของตนลงบนแผนที่ดนตรีโลกไปแล้ว ในฐานะวงดนตรีที่ไม่เหมือนใคร ทั้งวิธีเขียนเพลงและภาพลักษณ์