ผู้บัญชาการทหารเรือร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พร้อมสำรวจริมสองฝั่งเจ้าพระยาเตรียมป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งตรวจเยี่ยมชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำ วันนี้ (6 ต.ค.64) เวลา 08.30 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พร้อมคณะ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ในกิจกรรมจิตอาสาป้องกันน้ำท่วม โดยร่วมกับกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือและประชาชนในพื้นที่เสริมแนวกระสอบทรายตามแนวเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันน้ำท่วมเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกันนี้ผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมคณะได้ลงเรือสำรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางกองบัญชาการกองทัพเรือพระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ ถึงชุมชนสันติชนสงเคราะห์ จากนั้นเวลา 10.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเรือผลักดันน้ำของชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำอู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ณ วัดบางโฉลงนอก อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมร่วมกิจกรรมจิตอาสากับกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ และจิตอาสาจาก จ.สมุทรปราการ ในการร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ เก็บขยะ ผักตบชวา เพื่อไม่ให้เข้าไปกีดขวางการทำงานของเรือผลักดันน้ำ รวมทั้งกิจกรรมเสริมกระสอบทรายริมเขื่อนคลองบางโฉลง เพื่อสนับสนุนหน่วยงานในพื้นที่ในการป้องกันน้ำท่วม สำหรับพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการนั้น กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้สั่งการให้อู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ จัดตั้งชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ เพื่อนำเรือผลักดันน้ำเข้ามาสนับสนุนการเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.64 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบัน มีเรือผลักดันน้ำปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จ.สมุทรปราการ จำนวน 26 ลำ แบ่งวางตามจุดต่างๆ จำนวน 6 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 คลองลาดกระบัง ข้างแม็คโคร บางพลี จำนวน 3 เครื่อง จุดที่ 2 คลองลาดกระบัง ข้าง บ.บางกอก แอร์เวย์ จำนวน 3 เครื่อง จุดที่ 3 คลองขุด ถ.ตำหรุ - บางพลี ต.บางพลี จำนวน 4 เครื่อง จุดที่ 4 สถานีอนามัยบางปลา คลองบางปลา จำนวน 6 เครื่อง จุดที่ 5 สะพานกู้พารา คลองสำโรง ต.บางพลีใหญ่ จำนวน 4 เครื่อง จุดที่ 6 สะพานวัดบางโฉลงนอก คลองสำโรง ต.บางโฉลง จำนวน 6 เครื่อง โดยมีการเดินเครื่องทั้งหมดวันละ 20 ชั่วโมง ในการวางเรือผลักดันน้ำในครั้งนี้ มีเป้าหมายในการเร่งระบายน้ำออกไปยังคลองบางปลา และคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ เพื่อส่งมวลน้ำออกสู่ทะเลให้มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำท่วมขังให้เร็วที่สุด โดยผบ.ทร.ได้กล่าวเน้นย้ำ การเตรียมการและป้องกันเหตุน้ำท่วม มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุและเกิดความเสียหายแล้ว ในขณะที่มวลน้ำยังมาไม่ถึงกรุงเทพ และจ.สมุทรปราการ อีกทั้งยังจะมีน้ำทะเลหนุนสูงมาเพิ่มอีกด้วย จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของทร.เร่งตรวจสอบพื้นที่ต่ำ คันกั้นน้ำที่ชำรุด ให้อุดเสริมแนวป้องกัน รวมถึงให้ใช้เรือผลักดันน้ำพร่องน้ำในแม่น้ำลำคลองรอไว้ก่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับมวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังจะมาถึง โดยปัจจุบันติดตั้งที่อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไปแล้วจำนวน 26 ลำ และในวันพรุ่งนี้จะไปติดตั้งที่คลอดลัดโพธิ์อีก 12 ลำ ตามที่ได้ประสานกับทางกทม.