รมว.ศธ.ลงพื้นที่จริง ตั้งทีม Fix it Center อาชีวะจิตอาสา ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า-อุปกรณ์ทำมาหากิน ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย พกแค่บัตรประชาชนใบเดียว พร้อมมอบกล่องยังชีพให้ประชาชน 3 ตำบลในอ.อินทร์บุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “กระทรวงศึกษาธิการ รวมใจช่วยภัยน้ำท่วม” พร้อมด้วยนายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ, น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต เลขาฯรมว.ศึกษาธิการ, นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมเปิดโครงการ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลประศุก อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” มีความห่วงใยประชาชนอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แล้ว ยังต้องเผชิญกับอุทกภัยอีกด้วย ศธ.มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของชุมชน นักเรียน นักศึกษา บุคลากรเป็นอย่างมาก จึงจัดโครงการ Fix it Center เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา นำความรู้ความชำนาญด้านงานช่างมาให้บริการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียน นักศึกษาจากประสบการณ์จริง ได้ซ่อมของที่ชำรุดเสียหายจากผู้ประสบภัยจริง และนับให้เป็นเวลาเรียนด้วย สิ่งสำคัญที่อยากฝากคือ การดำเนินการต่าง ๆ ของสถานศึกษา จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของนักเรียน นักศึกษา ครู โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากโควิด 19 เป็นอันดับแรก เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและผู้เข้ารับบริการ สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ของหน่วยงานและสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานที่แน่ชัด เพราะสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น แต่ในส่วนของ สพฐ.เบื้องต้นทราบว่ามีหน่วยงาน/สถานศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากว่า 60 เขต ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง ศธ.ได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเขตพื้นที่การศึกษาละ 300,000 บาท เพื่อช่วยซ่อมแซมอาคารสถานที่ที่ได้รับความเสียหายในเบื้องต้น “นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย และฝากเน้นย้ำเรื่องการศึกษาด้านการจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยภายในเดือนตุลาคมนี้ รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ฉีดให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่มีอายุ 12-18 ปี โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเร่งฉีดวัคซีนให้นักเรียนนักศึกษาโดยเร็ว เพื่อให้สามารถทันเปิดเรียนรูปแบบปกติ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ที่จะเปิดวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้” ในการนี้ รมว.ศึกษาธิการ และคณะ ได้มอบกล่องยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ประศุก จำนวน 240 กล่อง อบต.ทับยา 130 กล่อง และอบต.น้ำตาล 130 กล่อง รวมทั้งเยี่ยมชมโรงครัวอาหารปรุงสำเร็จ จัดทำข้าวกล่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชน 200 กล่องต่อวัน พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์ซ่อมสร้าง Fix it Center ซึ่งสถานศึกษาอาชีวศึกษาจังหวัดสิงห์บุรี ทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 7 แห่ง ได้ดำเนินภารกิจร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับชุมชนในช่วงภาวะวิกฤตได้เป็นอย่างดี มีนักศึกษาจิตอาสา มาให้บริการซ่อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน งานเชื่อม มุ้งลวด และซ่อมคอมพิวเตอร์ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าน้ำจะลดทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ที่หน้า อบต.ประศุก ประชาชนสามารถรับบริการได้ เพียงนำบัตรประชาชนมา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้น รมว.ศึกษาธิการ และคณะ เดินทางด้วยเรือท้องแบนไปให้ขวัญและกำลังใจ พร้อมมอบกล่องยังชีพแก่ผู้ประสบภัย ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับกล่องยังชีพได้ด้วยตนเองที่ อบต.ประศุก เนื่องจากระดับน้ำท่วมขังบางแห่งสูงกว่า 1.50 เมตร