ภายหลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ 2 ล้านโดส ต่อมา นายอนุทิน กล่าวว่า ขอความเห็นใจอย่าตำหนิบุคลากรเพราะเป็นการบั่นทอนกำลังใจ ในเดือนตุลาคม ไทยจะมีวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ทั้งไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ไม่จำเป็นต้องฉีดให้ได้ถึงวันละ 1 ล้านโดส ทยอยฉีดกันวันละ 7-8 แสนโดส ไม่ได้นำวัคซีนมาเก็บหรือมาดองไว้ แต่ไม่ได้ไปเร่งบุคลากร เพราะทราบว่าทุกคนก็เหนื่อยมาก อีกทั้งการฉีดหลักแสนรายก็ไม่ได้น้อย สำหรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดสจะทยอยฉีดทุกคนที่อยู่ในระยะเวลาที่ควรได้รับ โดยเป็นคนที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม นับตั้งแต่ มี.ค.เป็นต้นไป มี 3-4 ล้านคน ส่วนคนที่ฉีดซิโนฟาร์มต้องผ่านคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันหากข้อมูลเข้ามาก็พร้อมฉีดให้ เพราะเป็นเชื้อตายเหมือนกัน แต่กรณีซิโนฟาร์มผู้นำเข้าคือบริษัทไบโอเจนนีเทคร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทำให้การเก็บข้อมูลหลักฐานเอกสารต่างๆ จะอยู่ที่นั่น และยังมีกฎหมายที่ใช้ในการตัดสินใจดำเนินแนวทางต่างๆ ได้ เพียงแต่หากมาขอความเห็นชอบจากกระทรวง และเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ก็จัดให้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้จำนวนมาก ตอนนี้ฉีดไปได้กว่า 10 ล้านเข็มแล้ว ขณะนี้จีนได้แสดงความจำนงที่จะบริจาควัคซีนซิโนแวคให้ไทยอีก 1.5 ล้านโดส ส่งเอกสารแสดงเจตจำนงมาแล้วการดำเนินการหลังจากนี้ยืนยันว่าไม่ล่าช้า ไม่ว่าเป็นประเทศอะไรก็ตาม ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ระบุว่าประเทศไทยปฏิเสธการลงนามรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา 1 ล้านโดสทั้งที่จริงๆ แล้วยังไม่มีการส่งเอกสารยืนยันมานั้น ตอนนี้คุยกันแล้ว ทำความเข้าใจกันแล้ว