จากทั้งหมดกว่า 5 ล้าน แสดงความจำนงกว่า 3.6 ล้านคน โดยดีเดย์ฉีด 4 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ย้ำนร.อยู่ที่ไหนให้ฉีดที่นั่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องเป็นภาระให้พ่อแม่ในการเดินทางรับส่ง พร้อมเตรียมแผนไว้สำหรับกลุ่มตกหล่นรอบแรก เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย กำหนดแนวทางการเปิดภาคเรียนให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยจะมีแผนฉีดวัคซีน Pfizer แก่นักเรียนกลุ่มอายุ 12-17 ปีนั้น ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 28 ก.ย.64 พบว่านักเรียนทั้งหมด 5,048,081 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,618,166 คน คิดเป็นร้อยละ 71.67 ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย. คาดจะได้ภาพรวมการสรุปข้อมูลทั้งหมด และจากข้อมูลพบมีทั้งจังหวัดที่ประสงค์ฉีด 100% เช่น ภูเก็ต ซึ่งจะได้ให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.ประสานกระทรวงสาธารณสุข เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนถึงการฉีดวัคซีน อีกทั้ง จะสำรวจนักเรียนที่ไม่ประสงค์ฉีดวัคซีนว่ามีความกังวลใจอะไรหรือไม่ เพราะแผนการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จะเริ่มวันที่ 4 ต.ค.นี้แล้ว จึงต้องเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อยที่สุด ทั้งนี้ สถานศึกษาที่มีนักเรียนในสังกัดที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน แต่นักเรียนรายนั้นไม่ได้พักอยู่ในจังหวัดที่ตั้งของสถานศึกษา ได้ให้สถานศึกษาจัดทำรายชื่อนักเรียนรายนั้น แยกต่างหากเสนอต่อศึกษาธิการจังหวัด โดยเด็กอยู่ที่ไหนให้ฉีดที่นั่น ให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดสรรยอดวัคซีนเพิ่มรายจังหวัด และให้สาธารณสุขจังหวัดกำหนดวัน เวลา สถานที่ฉีดวัคซีนของนักเรียนกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้นักเรียนได้ฉีดวัคซีนในจังหวัดที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระการรับ-ส่งของผู้ปกครอง ในการเดินทางไปฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ศธ.ยังได้เตรียมแผนฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มนักเรียนที่ตกหล่นในรอบแรกไว้ด้วย