หญิงวัย 31 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แจ้งจับเพื่อนสามีสุดแสบอ้างมีบัตร วีไอพี.กองสลากฯ สามารถเอาโควตาลอตเตอรี่ได้หลายเล่มทั้งหลอกจะให้เช่าบัตรต่อ หลงเชื่อมาร่วมปีที่แท้ไปรับจากคนอื่นมาให้ขายสุดท้ายเชิดเงิน 4 หมื่นหนี มีเหยื่อหลงเชื่อหลายคน วอน จนท.เร่งล่าตัวมาดำเนินคดี และนำเงินมาคืนเพราะยืมเขามาเดือดร้อนมาก วันนี้(26 ก.ย.64) น.ส.บัวชุม เนาวบุตร หรือน้อย อายุ 31 ปี ชาวอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำข้อความการแชทสนทนา สลิปการโอนเงิน พร้อมแผงลอตเตอรี่ที่ขายเลี้ยงชีพ และสำเนาการแจ้งความ ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัว นายวีรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.นครราชสีมา เนื่องจากนายวีรพงษ์ ได้หลอกเชิดเงินค่าฝากซื้อลอตเตอรี่จำนวน 4 หมื่นบาทเพื่อมาขายหนีหายไป โดย น.ส.บัวชุม เล่าให้ฟังว่า นายวีรพงษ์ เป็นเพื่อนกับสามีตัวเอง ได้มาชักชวนหลอกล่อว่าเขามีบัตร วีไอพี.ของกองสลากฯ สามารถเอาโควต้าลอตเตอรี่ได้หลายเล่ม ตนจึงหลงเชื่อฝากเงินกับ นายวีรพงษ์ ไปซื้อลอตเตอรี่มาขาย งวดละ 40,000 บาท ก็ได้ ลอตเตอรี่มาขายงวดละ 500 ใบ ซื้อขายด้วยกันมาประมาณ 1 ปี กระทั่งเดือนมีนาคม 2564 นายวีรพงษ์ ก็มาบอกกับตนเองว่า จะขายบัตร วีไอพี.ต่อให้ เพราะเขาจะเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยความที่ตนเองอยากจะมีรายได้เพิ่ม เพราะหากมีบัตรสามารถซื้อโควตาลอตเตอรี่ได้ 2 กล่อง หรือ 2 เล่มจริง ก็จะได้แบ่งกับสามีขายคนละเล่ม หรือ คนละ 500 ใบ ก็จะทำให้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น เพราะตนมีลูกที่ต้องดูแลถึง 3 คน โดยนายวีรพงษ์ บอกว่า ถ้าจะเอาบัตรต่อจะต้องจ่าย60,000 บาท แต่ตนยังไม่มีเงินก้อน เพราะลำพังเงินที่จะซื้อลอตเตอรี่มาขายก็ยังต้องไปหยิบยืมญาติสามี ขายได้ก็ผ่อนจ่ายให้เขาคืน แต่เมื่องวด ล่าสุดเดือนมีนาคม 2564 ตนได้ฝากเงินกับนายวีรพงษ์ ซื้อลอตเตอรี่ 40,000 บาท แต่นายวีรพงษ์ กลับเชิดเงินไป แล้วปิดมือถือและเฟซบุ๊กหนีหายติดต่อไม่ได้ เชื่อว่ามีเจตนาโกงแน่นอน จึงไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง ให้ตำรวจช่วยติดตามตัวนายวีรพงษ์ มาดำเนินคดีและนำเงินมาคืน เพราะเดือดร้อนมาก น.ส.บัวชุม ยังบอกอีกว่า ตลอด 1 ปี ที่นายวีรพงษ์ หลอกว่ามีบัตร วีไอพี. สามารถเอาโควตาลอตเตอรี่ได้หลายเล่มนั้น พอตนถูกหลอกเชิดเงินก็ไปสืบหาข้อมูล ทราบว่าที่จริงนายวีรพงษ์ ไปซื้อจากคนอื่นมาให้ตนเองต่ออีกที ไม่ได้มีบัตร วีไอพี.กองสลาก หรือมีโควตาตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ก็ไม่คิดว่านายวีรพงษ์ ทำแบบนี้ได้ยังไงทั้งที่เป็นเพื่อนกับสามีของตนเอง จากกรณีที่เกิดขึ้นก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าไว้ใจใครแม้แต่คนใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นอาจถูกหลอกสูญเสียเงินเหมือนกับตนเอง