สำหรับกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่าได้ให้ความสำคัญในการเดินทางของลุกค้า และการปกป้องสภาพอากาศ จึงได้รวมโปรแกรม PartnerPlusBenefit โปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าองค์กร เข้ากับแพลตฟอร์ม Compensaid ที่จะเข้ามาช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทย สามารถเข้าถึงช่องทางที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ทั้งนี้ นายสเตฟาน โมลนาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย สายการบินในกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า การนำเสนอโซลูชันเชิงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของสภาพอากาศ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า ที่ไม่เพียงแต่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของบริษัทลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 และบรรลุถึงการปล่อยคาร์บอนให้เป็นกลางภายในปี 2593 เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อื่นสามารถทำเช่นเดียวกันได้ด้วย ในปัจจุบัน การชดเชยคาร์บอนโดยใช้ PartnerPlusBenefit มีให้บริการเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อย่างประเทศไทยเท่านั้น หลาย ๆ ประเทศที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนความเป็นกลางของคาร์บอนและส่งเสริมความพยายามในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้ง PartnerPlusBenefit และ Compensaid จะช่วยให้บริษัทขนาดเล็กสามารถมีส่วนร่วมและช่วยปูทางไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายดังกล่าว เพียงเริ่มต้นด้วยขั้นตอนง่าย ๆ โดยคะแนนสะสมที่ได้รับจากโปรแกรม PartnerPlusBenefit ของลูกค้าองค์กร สามารถแลกคะแนนผ่านแพลตฟอร์ม ‘Compensaid’ เพื่อใช้ในการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการรับรองแล้ว บริษัทยังมีทางเลือกในการสนับสนุนองค์กรด้านความยั่งยืนที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งดำเนินงานในประเทศของตนเอง เช่น ลูกค้าองค์กรในประเทศไทยสามารถเลือกสนับสนุน มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ ที่อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ และปกป้องอนาคตของระบบนิเวศของไทย มีโครงการหลัก 4โครงการ ได้แก่ การวิจัยและการฟื้นฟูป่าไม้ การพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเยาวชนและสิ่งแวดล้อม หรือ มูลนิธิช้างเอเชีย สนับสนุนและเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดความเป็นอยู่ที่เหมาะสมของช้างในโลกสมัยใหม่ โดยส่งเสริมความตระหนักรู้และสนับสนุนที่พักพิงของช้างรวมถึงหน่วยงานสัตวแพทย์เคลื่อนที่ เป็นต้น