สธ.ห่วงสุขภาพประชาชน แนะกินอาหารปรุงสุกใหม่ เลี่ยงเปรี้ยวจัดมันจัด เน้นผักพื้นบ้านรสเปรี้ยวอมขมช่วยคลายหนาวได้
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีสภาวะอากาศที่หนาวเย็นลง ส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วยและมีปัญหาสุขภาพ เช่น ไข้หวัด ไอ และคอแห้งบ่อย ผิวหนังแตก คัน การสร้างความแข็งแรงของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ จึงจำเป็นต้องได้กินนมแม่เป็นประจำ แม่ควรให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าบ่อยครั้งตามต้องการ และไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่นแก่เด็ก เพราะนมแม่มีน้ำและสารอาหารที่เพียงพออยู่แล้ว และยังมีภูมิคุ้มกันโรคที่ช่วยป้องกันเด็กจากการติดเชื้อต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ การให้ลูกดูดนมแม่ยังกระตุ้นฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ในแม่ ซึ่งมีผลเพิ่มอุณหภูมิในตัวแม่ ทำให้ลูกคลายความหนาวได้ในระหว่างที่แม่โอบกอดให้นมลูก ส่วนผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอาบน้ำในเวลากลางคืน หรือถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ควรยืดเส้นยืดสายเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายก่อนอาบน้ำ
สำหรับประชาชนทั่วไป ในช่วงหน้าหนาวควรเลือกกินอาหารที่เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย เป็นอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยวจัด มันจัด แต่ควรเลือกอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือเปรี้ยวอมขมเล็กน้อยที่เป็นผักพื้นบ้านตามฤดูกาลและหาได้ง่ายในช่วงหน้าหนาว เช่น กระเจี๊ยบ ดอกแค ขี้เหล็ก ยอดมะขาม เพราะมีวิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านโรคหวัด และเน้นเมนูอาหารที่มีเครื่องเทศที่มีรสเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ เช่น แกงเลียง แกงส้มดอกแค แกงป่า แกงขี้เหล็ก แกงเผ็ด แกงคั่ว เป็นต้น
กินผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง เพราะจะมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบบทางเดินหายใจ สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและการทำงานของอวัยวะภายใน บรรเทาอาการไข้และคอแห้ง