เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 ก.ย.ที่วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พระครูวิสุทธิโพธารักษ์ (สมพร)รองเจ้าคณะอำเภอเมืองบึงกาฬและเจ้าอาวาสวัดศรีโสภณธรรมประธานฝ่ายสงฆ์ ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย หรือ มท.2 นางแว่นฟ้า ทองศรี ภริยาและนายก อบจ.บึงกาฬ ด้านนายราเชน ศิลปะรายะ ผอ.โครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 5 กรมชลประทานและนางวรินทร ศิลปะรายะ นายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รอง ผวจ. พร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมบุญพิธียกฉัตร 5 ชั้น ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์หลวงพ่อพระใหญ่ที่ประดิษฐานเป็นองค์พระประธานในพระอุโบสถของวัดโพธารามหรือวัดบ้านท่าไคร้ มีนายกริชชัย ศิลปรายะ ท้องถิ่นจังหวัด นายสมหวัง อารีย์เอื้อ หน.สำนักงาน นายธีระพล ขุนพานเพิง นอภ.เมืองบึงกาฬ นายราชันย์ วะนาพรม นายก ทม.บึงกาฬ พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมจำนวนมาก ส่วนประวัติหลวงพ่อพระใหญ่ว่ากันว่าหลวงพ่อพระใหญ่ วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ ไม่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่เล่ากันว่าราว 200 กว่าปีก่อน ชาวบ้านอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากเมืองยศ หรือยโสธร เข้ามาบุกเบิกป่าทึบริมฝั่งโขงแล้วพบหลวงพ่อพระใหญ่ ในสภาพมีเถาวัลย์ปกคลุมรกรุงรังและพระเกศหัก จึงช่วยกันบูรณะเสริมพระเกศขึ้นใหม่ให้สมบูรณ์ และฟื้นฟูพื้นที่โดยรอบสร้างเป็นวัดขึ้น ขณะนี้พระอุโบสถทีประดิษฐานหลวงพ่อพระใหญ่ได้บูรณะก่อสร้างหลังใหม่ใหญ่กว่าเดิม หลวงพ่อพระใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว สูง 3 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยล้านช้าง แสดงถึงสายสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมสองฝั่งโขง พุทธศาสนิกชนมักไปกราบไหว้บูชาตั้งจิตอธิษฐานขอพร ขอให้ทำสิ่งใดๆ ได้สำเร็จ เช่นการสอบเข้าเรียน การเข้าทำงานหรือแม้การขอมีบุตร เมื่อได้สมหวังตามที่ขอพรเอาไว้ ก็จะบูชาด้วยการจุดบั้งไฟ 9 ดอกจุดถวายหลวงพ่อพระใหญ่ ณ จุดที่เตรียมไว้ข้างพระอุโบสถ นอกจากนั้นที่วัดแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บเรือกำปั่นโบราณมีความยาวประมาณ 25 เมตร สูง 3 เมตร กว้าง 4.50 เมตรของชาวฝรั่งเศสที่ถูกกระแสน้ำพัดล่มจมอยู่ใต้แม่น้ำโขงมากว่า 70 ปีหลังบรรทุกสินค้าทวนน้ำขึ้นไปขายที่หนองคายและกรุงเวียงจันทน์ พึ่งเก็บกู้ขึ้นมาได้เมื่อ 5 ปีก่อน