ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีตลอดทั้งวันเสาร์ยันวันนี้(19 ก.ย.64)ได้เกิดกระแสของการแชร์ข้อมูลผ่านโลกโซเชียลฯทางไลน์กันแพร่สะพัดถึงกรณีบทสนทนาโต้ตอบกันถึงกรณีบริษัทประกันวินาศภัยรายหนึ่งที่รับประกันภัยเจอจ่ายจบ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกลูกค้าร้องเรียนกรณีจ่ายค่าสินไหมหรือเคลมประกันโควิดล่าช้าว่า บริษัท.......แจ้งปิดกิจการแล้วนะครับ เจอพิษประกันโควิดเจอจ่ายจบอย่างหนักเลย ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง เมื่อวานนี้เลิกจ้างพนักงานทั้งหมดแล้ว
ข่าวจริงครับ...มีเพื่อนน้องที่ทำงานเก่าแจ้งคุยกันทาง LINE กลุ่ม เมื่อวานนี้ว่า ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดแล้ว และจะมีการแจ้งประกาศต่างๆการประมาณสัปดาห์หน้านี้ครับ
อันนี้จบจริงๆครับ
ภายหลังจากบทสนทนาดังกล่าวได้ถูกแชร์ว่อนไปทั่ว มีรายงานข่าวแจ้งว่า ได้สร้างความปั่นป่วน และเกิดความวิตกกันทั่ว ไม่ว่าจะเป็นในแวดวงประกันภัย และอีกทางหนึ่งก็มีกระแสข่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ย.นี้ทางดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาฯคปภ.คงจะสั่งการให้พนักงานคปภ.เข้าไปติดตามสถานการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิดถึงกรณีปรากฏกระแสข่าวแพร่สะพัดบนโลกออนไลน์ดังกล่าว พร้อมกับเตรียมถามไถ่ทางผู้บริหารบริษัทประกันรายดังกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวด้วย
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานคืบหน้าเข้ามาว่า ในเบื้องต้นจำนวนพนักงานของบริษัทมีจำนวน 200 คน บริษัทได้มีการปลดพนักงานไปเหลือเพียง 25% โดยบริษัทได้นัดหมายให้พนักงานที่ถูกปลดเข้ามารับเช็คในวันจันทร์นี้
ขณะที่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์หรืองานประกันประเภทอื่นๆคงจะไม่มีปัญหา เพราะคปภ.ยังสามารถจะมอบหมายให้สมาคมประกันวินาศภัยไทยร่วมกันหาบริษัทประกันเข้ามารัรบโอนกรมธรรม์ที่ยังมีระยะเวลาคุ้มครองเหลืออยู่ได้ แต่ขณะนี้สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของบรรดาบริษัทประกันฯต่างๆที่กำลังวิตกกันเป็นอย่างมาก คือว่า หากบริษัทประกันฯรายดังกล่าวปิดฉากโดยปิดกิจการลงตามที่มีข่าวแพร่สะพัด บริษัทประกันฯต่างๆจะรับโอนกรมธรรม์ประกันโควิดเจอจ่ายจบกันอย่างไร และจะมีบริษัทใดกล้ารับโอนกรมธรรม์ประกันโควิดเจอจ่ายดังกล่าวที่ยังมีระยะเวลาความคุ้มครองเหลืออยู่หรือยังอยุ่ภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ฉบับดังกล่าว เนื่องจากความคุ้มครองยังไม่ครบปี
ทั้งนี้สาเหตุที่คาดว่าบริษัทประกันต่างๆอาจจะไม่กล้ารับโอนกรมธรรม์กัน สืบเนื่องจากขาดทุนเห็นๆ และเวลานี้หลายบริษัทประกันต่างก็ยุติการขายแบบประกันประเภทนี้กันไปแล้ว โดยเฉพาะในประกันเจอจ่ายจบที่บริษัทดังกล่าวขายให้กับลูกค้าไปแล้วนั้น จะมีความคุ้มครองหลากหลายด้วยกัน ทั้งติดเชื้อรับเงินทันที ความคุ้มครองชดเชยรายได้ 14 วัน และความคุ้มครองกรณีเกิดโคม่าด้วย และยิ่งที่น่ากังวลอย่างมากก็คือ ได้มีการส่งประกันภัยต่อให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ(รีอินชัวรันส์ต่างประเทศ)หรือไม่ และอย่างไร ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องน่าห่วงทีเดียว
โดยต่างจากการบริษัทประกันฯทั่วไปก่อนหน้านี้ที่มีการปิดกิจการลงไปแล้วในอดีต ซึ่งกรมธรรม์ลูกค้าส่วนใหญ่ยังพอจะรับโอนกรมธรรม์ได้ เพราะยังเป็นกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งต่างไปจากกรมธรรม์ประกันโควิดเจอจ่ายจบที่โอกาสเสี่ยงสูง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันขณะนี้ยังทะลุหลักหมื่น ยังไม่มีทีท่าจะลดลง
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร หรือหาข้อยุติได้หรือไม่นั้น คงจะต้องติดตามท่าทีของสมาคมประกันวินาศภัยไทยว่าจะตัดสันใจกับเรื่องนี้กันอย่างไร ภายใต้การหารือร่วมกับเลขาฯคปภ.