พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า..."วัคซีนเดือนต่อไป 24+23+23 ล้านโดส จะเกิดอะไร?" ผมลองชวนดูสไลด์ กรมควบคุมโรคจะ เข้าใจสถานการณ์เลยว่าที่ผ่านมา ปัญหาวัคซีน 5 เดือนแรก จัดส่งให้เราได้น้อย ทำให้เกิดปัญหาวิกฤตการฉีด แต่ในปัจจุบัน สธ.ได้แก้ปัญหาจน คลี่คลายไปในทางที่ดี จัดหาได้มากขึ้นมาก หลังจากนั้นและทำให้เราตีตื้นได้อย่างรวดเร็วใน 3เดือนถัดมา ข้อมูลถึงเดือนล่าสุด14กันยายน มีรายงานการฉีดวัคซีน ได้กว่า 40 ล้านโดส โดยมีวัคซีนรับมาสะสม ถึงเดือนกันยายน 54 ล้านโดส แสดงว่าในครึ่งเดือนหลังนี้จะมีการฉีดอีกมากกว่า 10 ล้านโดส ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวันละ 6-9 แสนโดส อยู่แล้ว ตามนโยบายท่านปลัด Kiattibhoom Vongrachit ต่อจากนั้นในเดือน ตุลาคมมาอีก 24 ล้านโดส แสดงว่าจะมีการฉีดรวม ถึงสิ้นตุลาคม 78 ล้านโดส หากรวมนอกระบบรัฐคือ ซิโนฟาร์ม อีก 11ล้าน จะเป็น 89 ล้านโดส ถือว่าน่าจะครอบคลุมได้อย่างเร็วมาก ลองไปดูเข็มที่ 2 ในตารางที่2 วันที่ 14 กันยายน ได้แล้ว 13 ล้านคน โดยเข็มแรกได้ไปแล้ว 27 ล้านคน อีก 14 ล้านคน จะต้องได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งวัคซีนที่จะฉีดถึงสิ้นเดือนนี้อีก 14 ล้านโด๊ส ใกล้เคียงกัน แต่รวมเข็มหนึ่งด้วยนะครับ บางส่วนจึงต้องข้ามเดือนไป ดังนั้นภายในเดือนหน้า 27 ล้านคน ควรจะได้ครบ 2 เข็ม จาก 50 ล้านคนแรก ที่ขาดอยู่อีก 23 ล้านคน ในเดือนตุลาคมจะมี มา 24 ล้านโดส และพฤศจิกายน ธันวาคม 23+23 ล้าน อย่างน้อยปิดเกมนี้ได้ เกือบครบ แต่ถ้านับวัคซีนทางเลือก คือซิโนฟาร์ม แล้วถือว่าน่าจะเกิน แม้จะแบ่ง Pfizer ให้เด็กแล้ว ทุกคนที่สมัครใจควรได้ ภายในธันวาคมใกล้ 100 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่ม 50 ล้านตามเป้าแรกครับ สำหรับ เด็กๆอีก 10+ ล้านคน ที่เพิ่มจาก 50 ล้านคนแรก โดยเด็กกลุ่มนี้ได้กำหนดให้วัคซีนไฟเซอร์ ที่จะมา เป็นวัคซีนหลัก และมาในเดือนตุลาคมถึง ธันวาคม 8 +10+10 ล้าน ตามลำดับ เด็กจะได้คนละ 2 เข็ม ก่อนสิ้นปีนี้ โดยฉีดผ่านทางโรงเรียน น่าจะทำได้ง่ายและเร็ว คนที่สมัครใจน่าจะฉีดครบหมดแน่นอน พร้อมทั้งครูด้วยครับ เนื่องจาก Sinovac กับ Sinopharm เป็นวัคซีนเชื้อตายเหมือนกัน ทาง EOC ได้หารือกันว่ากลุ่มที่จ่ายเงินเอง ได้ Sinopharm เข็มแรกแล้ว แทนที่จะต้องได้ 2 เข็ม ควรจะ ได้รับ astrazeneca เป็นเข็มที่ 2 ไปเลย ไม่ต้องรอเข็มที่ 3 จะทำให้ขยายฐานได้เร็วขึ้น แต่ต้องประสานงานก่อน กระบวนการอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยท่านอธิบดี โอภาสที่แสนใจดีครับ ในส่วนของภูเก็ต ที่ได้ Sinovac 2เข็ม จะได้รับ เข็มที่ 3 เป็นแบบใหม่ใต้ผิวหนัง (intradermal) ที่ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงมาก และ 1 โดส เพิ่มการฉีดเป็น 5 คน จะดีเดย์ใน วันมหิดล เป็นข่าวดีมากครับ เพื่อปิดช่องว่าง Sandbox โดยใช้วัคซีนไม่มากแต่ครอบคลุม และน่าจะเป็นต้นแบบ เข็มที่ 3 ของบุคคลทั่วไป ทั้งประเทศในอนาคตได้ ทั้งนี้ยังไม่รวมซิโนฟาร์ม ที่เข้ามาเพิ่มใหม่ จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และสภากาชาดไทย และmodena อีก 5 ล้านโดส โดยข้อมูลตารางนี้มี 140 ล้านโดส น่าจะครอบคลุมเกือบครบทั้งประเทศ ในสิ้นปีครับ สำหรับอัตราการฉีด วันที่ 24 กันยายนหรือวันมหิดลนี้ ท่านปลัด ตั้งเป้าจะทำสถิติทะลุวันละ 1 ล้านเป็นวันแรก โปรดติดตามดูสถิติใหม่กันนะครับ ลองชวนมาดูตารางต่างประเทศ ของอาเซียน ถ้าเราฉีดครบ 140 ล้านโดส อัตราการครอบคลุมน่าจะมากกว่า 90% ในทุกหมวด คิดว่าเราจะขึ้นแท่นเป็นเบอร์1 ชนะอินโดวันนี้ (116ล้านโดส)ได้ภายในสิ้นปีนี้ ถ้าไม่มีวิกฤตการณ์อื่นนะครับ ข้อสำคัญวัคซีนต้องมาตามกำหนดนี้ ซึ่งปัจจุบันไม่มีปัญหาเรื่องการขาดให้เห็นเช่นช่วงแรก ที่เป็นวิกฤตการณ์ขาดทั่วโลกแล้ว จึงน่าจะได้ตามเป้าครับ สิ้นปีนี้เชียร์ทีมวัคซีนไทย ขึ้นอันดับ 1 อาเซียนกันนะครับ และจะเป็นตัวแปรให้การติดเชื้อรุนแรง และการเสียชีวิต ลดลง ในกลุ่มประชากรไทยแน่นอน #แม้อัตราการติดเชื้ออาจจะลงไม่มาก ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่จะไม่มีอาการ รุนแรงครับ สังเกตได้จากเตียง ICU และปอดอักเสบลดลงแล้ว แต่ทั้งนี้ก็อย่าประมาท ใส่หน้ากาก ล้างมือและอยู่ห่าง เหมือนเดิมก่อนนะครับ ขอบคุณทีมงาน สธ.ที่ช่วยกันทุ่มเทจัดหาวัคซีน และ ความเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ และอาสาทุกคนครับ เราต้องชนะแน่นอน ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันหยุดครับ หมออิทธพร