แกงไตปลา หรือชาวบ้านเรียกว่า แกงพุงปลา เป็นอาหารประจำถิ่นของภาคใต้ แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเดินทางไปภาคไหนเราได้ชิมรสแกงไตปลากันทั่วหน้า เพียงแต่ว่าจะเป็นตำรับดั้งเดิมของชาวปักษ์ใต้หรือไม่ก็คงต้องดูกันอีกที เมื่อนึกถึงแกงไตปลาก็จะนึกถึงความเผ็ด ความร้อน เพราะเครื่องแกงจะมีความเผ็ดจากพริกขี้หนู และพริกไทย เมื่อผสมรวมกันในเครื่องแกงก็จะทำให้แกงไตปลามีทั้งความเผ็ดและความร้อน นอกจากนี้คำว่า “ไตปลา”ก็คือพุงปลาที่นำไปหมัก การหมักต้องอาศัยเกลือ เพราะฉะนั้นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงไตปลาก็คือ เผ็ด ร้อน และเค็ม เวลาที่นำมาปรุงก็จะปรุงได้สองแบบคือแบบใส่กะทิ กับไม่ใส่กะทิ
เมื่อเป็นอาหารท้องถิ่นภาคใต้บางทีภาคอื่นๆก็นำไปทำเป็นอาหารขายตามจังหวัดต่างหรือแม้กรุงเทพก็ยังมีแต่จะให้รสเด็ดเผ็ดได้ใจ อร่อยถูกใจตามตำรับของภาคใต้จริงก็หาทานยาก ดังนั้น นายจำนง พลูภักดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จ.สตูล พร้อมกับนางสาวฟ้าอรุณ คงอาสา ครูประจำแผนกวิชาอุตสาหกรรมเกษตร ร่วมกันคิดหาแนวทางในการแปรรูปพุงปลาอาหารถิ่นใต้ และเป็นที่รู้จักกันของคนใต้ ให้ได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักมากขึ้น และแปรรูปแบบพกพาได้อย่างสะดวกทั้งนำขึ้นรถ ขึ้นเครื่องบิน
นางสาวกลางดาว โพติยะ อายุ 18 ปี นักศึกษาประจำแผนกวิชาอุตสาหกรรมเกษตร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จ.สตูล พร้อมเพื่อนนักศึกษากำลังโชว์สาธิต การทำพุงปลาสโตย 4.0 โดยกลุ่มนี้ได้สาธิตวิธีการ2 เมนูคือพุงปลาปรุงสำเร็จและพุงปลาปรุงสุก โดยพุงปลาปรุงสำเร็จก็จะทำเป็นน้ำยาขนมจีน แค่นำพุงปลาปรุงสำเร็จ ใส่ในหม้อและปรุงรสด้วยผัก เนื้อปลาตามต้องการแค่นี้ก็สามารถทานได้แล้วไม่ยุ่งยาก และรับรองความอร่อยไม่มีกลิ่นคาว ซึ่งในส่วนพุงปลาปรุงสุกคือ พุงปลาที่สามารถนำมารับประทานได้เลย จะทานกับข้าว หรือทำแกง
สำหรับพุงปลาของที่นี่ไม่มีการใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย ซึ่งในการเก็บรักษาควรเก็บไว้ในตู้เย็นนอกจากนี้ ทางกลุ่มนักเรียนก็ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆอีกมากมาย เช่น พุงปลาแห้ง พุงปลาผง ที่นักเรียนกลุ่มนี้คัดสรรความอร่อย ผ่านวิธีการทำและนำพืชผักหรือปลาที่มีอยู่ในพื้นที่ มาปรับเปลี่ยนแปรรูปให้อาหารในท้องถิ่นให้น่าสนใจ ได้รับความนิยมสำหรับคนที่ไม่ทานปลาร้า ในส่วนคนที่ชอบพุงปลาอยู่แล้วซึ่งบางครั้งไม่ค่อยมีเวลาในการทำ ก็สามารถนำพุงปลาปรุงสุกหรือพุงปลาพุงสำเร็จไปปรุงได้เลยไม่ยุ่งยาก และยังสามารถต่อยอดให้กับตัวนักเรียนเองได้ในการประกอบอาชีพ และยังส่งเสริมภูมิปัญญาถิ่นใต้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งมาลองมาทานได้
นายจำนง กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนแปรรูปพุงปลา ของนักเรียนแผนกวิชาอุตสาหกรรมเกษตร คือการคิดค้นศึกษาวิธีการทำจนสำเร็จและใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่มาปรับใช้ จึงได้มาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป คือ พุงปลาปรุงสำเร็จ พุงปลาปรุงสุก พุงปลาแห้ง ซึ่งการทำพุงปลาที่ไม่เหมือนใคร แตกต่างกันในเรื่องของรสชาติ ไม่มีกลิ่นคาวของพุงปลา มีความสด สะอาด ไม่มีสารวัตถุกันเสีย และราคาก็ไม่แพง โดยทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้มีรายได้ในระหว่างเรียน ซึ่งมีการต่อยอดได้ในอนาคตในเรื่องการประกอบอาชีพ
ด้านนางสาวกลางดาว เสริมว่า พุงปลาหรือแกงไตปลาอาหารทางใต้ที่ชอบทานคู่กับขนมจีน ในกระบวนการทำหากคนไม่เคยทำมักจะยุ่งยาก หลายกระบวนการดังนั้นทางวิทยาลัยฯจึงนำมาเป็นหลักสูตรส่งเสริมอาชีพโดยทำทั้งปรุงแต่งสำเร็จรูปแบบบรรจุถุงพร้อมหากจะกินแค่ใส่เตาไมโครเวฟก็กินคู่กับขนมจีนได้เลยและยังมีแบบน้ำที่สามารถทำไปทำยำหรือควบคู่ส้มตำได้โดยที่บางคนไม่กินปลาร้าก็นำไปทำได้ และยังมีไตปลาแห้งอีกด้วยซึ่งทางเราพยามคิดค้นไม่ให้มีกลิ่นคาวและบรรจุเก็บใส่ขวดและถุงพลาสติกที่พร้อมนำเป็นของฝากขึ้นเครื่องบินได้