"โควิดไทย" ทุบ ศก.เดี้ยง! "หอการค้า" เผยดัชนีเชื่อมั่นสค.ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในรอบเกือบ23ปี ยันล็อกดาวน์ซ้ำ วัคซีนล่าช้า-เสถียรภาพการเมืองลดลง ต้นเหตุฉุดศก.แย่ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.64 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แตะระดับ 39.6 ซึ่งเป็นดัชนีที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือต่ำสุดในรอบเกือบ23ปี นับตั้งแต่เดือนต.ค.41 สำหรับปัจจัยที่ส่งผลทำให้ดัชนีมีการปรับตัวลดลงนั้น เป็นผลมาจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่รุนแรงมากขึ้น ตลอดจนการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมจนรัฐบาลต้องขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดเป็น 29 จังหวัด ออกมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศแย่ลง การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และไม่เป็นไปตามเป้าหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้เหลือโต 0.7-1.2%,คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือโต 0.7% ,ความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง และการชุมนุมทางการเมืองในประเทศ ,ผู้บริโภคกังวลต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพ และเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 33.8 โอกาสในการหางานทำลดลงมาอยู่ที่ระดับ 36.3 และรายได้ในอนาคตลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.6 ส่วนปัจจัยบวกได้แก่ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ที่อนุญาตให้บางกิจการกลับมาเปิดให้บริการได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด,มาตรการเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ ,กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ,การส่งออกเดือน ก.ค.ขยายตัว 20.26% ,การฉีดวัคซีนของโลกและการฉีดวัคซีนในประเทศที่เริ่มเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกมีความหวังว่าเศรษกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ในอนาคต ทำให้ศูนย์พยากรณ์ฯมองว่าโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 0-2 มีโอกาสเป็นไปได้ โดยจะมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้และคาดการณ์ปีหน้าใหม่อีกครั้งในเดือนต.ค.64