บทความพิเศษ / ทีมงานหญ้าแห้ง(ปากคอก) การแพทย์แผนตะวันออกการแพทย์ทางเลือก “สมุนไพร” (Herbs) คืออะไร นอกจากแพทย์แผนไทยแล้ว แพทย์แผนจีน ถือเป็นสมุนไพรเป็น "การแพทย์แผนตะวันออก" เป็น "การแพทย์ทางเลือก" (Alternative Medicine) ที่นำมาใช้ทดแทนการแพทย์แผนปัจจุบัน ประเทศไทยใช้สมุนไพรเพื่อการรักษามานานแต่บรรพบุรุษที่สั่งสมองค์ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง มีร้านขายยาแผนโบราณ ทั้งแผนจีน และ แผนไทย ปัจจุบันมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข คุ้มครองตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ 198 ตำรา และตำรับยาแผนไทยของชาติ 30,000 ตำรับ ตำรายาสมุนไพรที่สำคัญ เช่น “แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์” สมัยรัชกาลที่ 5 กว่า 1,200 ตำรับ ตำรายาวัดโพธิ์ สมัยรัชกาลที่ 3 สมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานับพันปี ในที่นี้จะเน้นเฉพาะสมุนไพรที่เป็น “พืช” เพราะคำว่าสมุนไพรนั้น มีความหมายรวมไปถึงสิ่งที่ไม่ใช่พืชด้วย สมุนไพรนั้นจะหมายรวมถึง “ผลิตผลธรรมชาติที่ได้จาก พืช สัตว์ และแร่ธาตุ ที่ใช้เป็นยา หรือผสมกับสารอื่นตามตำรับยา เพื่อบำบัดโรค บำรุง ร่างกาย หรือใช้เป็นยาพิษ หากนำเอาสมุนไพรตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมรวมกันซึ่งจะเรียกว่า ยา ในตำรับยา นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่ธาตุอีกด้วย แต่เมื่อการแพทย์แผนปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทคุณค่าของสมุนไพรภูมิปัญญาโบราณก็ถูกบดบังไปเรื่อยๆ และถูกทอดทิ้งไป แต่โบราณมาสมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้จริงที่ใช้ได้อย่างกว้างขวาง เพราะแต่ก่อน และบ้านนอกชนบทไม่มีสถานพยาบาล หรือ อยู่ไกล ส่วนใหญ่สถานพยาบาลจะมีอยู่ที่ตัวเมือง ตัวจังหวัดเท่านั้น สมุนไพรไทยได้รับการยอมรับในคุณค่าแล้ว จุดเริ่มเมื่อภาครัฐเห็นคุณค่าของสมุนไพรไทยด้วยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2535 ว่า “ให้มีการผสมผสานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้ากับระบบบริการสาธารณสุขของชุมชนอย่างเหมาะสม” ในช่วงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน “โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” (OTOP : One Tambon, One Product) ก็มีการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นสมุนไพรไทยด้วย ตามได้กำหนดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ พ.ศ.2544 แบ่งหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 ประเภท คือ 1. อาหาร 2. เครื่องดื่ม 3. ผ้า เครื่องแต่งกาย 4. เครื่องใช้และเครื่องประดับตกแต่ง และ 5. ศิลปะประดิษฐ์และของที่ระลึก และ 6. สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารและยา ในที่สุดได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ที่กำหนดบทนิยามคำว่า “ผลิตภัณฑ์สมุนไพร” ให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่เป็นยาแผนไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้สำหรับการรักษา บรรเทา ป้องกันโรคหรือให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือการทำหน้าที่ของร่างกายมนุษย์ รวมถึงกำหนดนิยามคำว่า“สมุนไพร” “ยาแผนไทย” “ยาพัฒนาจากสมุนไพร” “การแพทย์แผนไทย” ด้วย ซึ่ง สมุนไพรในที่นี้จะไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 กล่าวคือกฎหมายว่าด้วยยาและกฎหมายว่าด้วยอาหาร แต่อย่างใด มีคณะกรรมการผลิตภัณฑ์สมุนไพรทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมและกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สมุนไพร หวังในระดับสากลการส่งออกด้วย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 55 ว่าด้วยการสนับสนุนให้มีการพัฒนาด้านการแพทย์แผนไทยในการบริการสุขภาพ โดยบัญญัติให้รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ มาตรา 69 ว่าด้วยเรื่อง การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างเศรษฐกิจให้กับ ประเทศ และการสร้างนวัตกรรมยาสมุนไพรก็นับเป็นโอกาสทองของคนไทย สมุนไพรไทยสุดฮอตที่สำคัญ พืชสมุนไพรไทยมีหลายชนิด หลายประเภทหลายแขนง สมุนไพรอยู่คู่ครัวเรือน ชุมชนไทยมาหลายร้อยปี สำหรับคนบ้านนอกช่วง 40-60 ปีที่ผ่านมา จำความได้จากผู้เฒ่าผู้แก่เคยใช้สมุนไพรในท้องถิ่น ด้วยคุณแม่นำมาใช้บำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ของคนในครอบครัวและในชุมชน พืชสมุนไพรที่จำได้คือ ใบกะเพราให้ความร้อนแรงฆ่าเชื้อโรคในลำไส้ในกระเพาะอาหาร หอม, ขิง, ข่า, ตะไคร้, มะนาว มีประโยชน์ช่วยเพิ่มวิตามินซี ใช้ปรุงในอาหารต้มยำต่างๆ มีสรรพคุณช่วยในเรื่องเหน็บชา แก้ร้อนใน พลูกับเหล้าขาวบดผสมให้ละเอียดช่วยแก้ผดผื่นและงูสวัด ใบขี้เหล็กใช้มาทำยาทำอาหารทำแกงขี้เหล็กมีความขมเป็นยา ต้นหางจระเข้ใช้ทาสมานแผล ต้นใบหมามุ่ยใช้ทำยาเป็นเม็ดลูกกลอนเพิ่มสมรรภาพทางเพศ พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร กระชาย กัญชา และใบกระท่อมเพื่อสรรพคุณประโยชน์ ที่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย วงการแพทย์ ทดลองแล้วผู้คนรู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นพืชสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคโควิด-19 แต่ก่อนคนบ้านนอกจะมีการสุมโปงยา - ยาสุม (รมไอน้ำ) สมุนไพรต่างๆ ด้วยวิธี “สุมยาหรือโปงยา” ในเมื่อสมุนไพรมีความสำคัญแล้ว ทำไมรัฐไม่ส่งเสริม เป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบ การทำลายสังคมชนบทเป็นสังคมเมืองเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไม่รู้จักสมุนไพร เด็กที่เติบโตในสังคมเมือง สังคมคอนกรีต ไม่รู้จักชนบทท้องไร่ท้องนา ป่าเขา ธรรมชาติบ้านนอก ฯลฯ เพราะพืชสมุนไพรเป็นผลผลิตจากธรรมชาติที่คนรู้จักนำมาใช้เป็นประโยชน์ เป็นยา เพื่อการรักษาโรคโรคภัยไข้เจ็บมาตั้งแต่โบราณแล้ว เป็นอาหารพื้นบ้าน เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง หรือประโยชน์อื่นใดก็ได้หลายอย่าง ประโยชน์ที่เห็นๆ ของสมุนไพร เช่น (1) สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น (2) ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจุบัน (3) สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท เป็นต้น สมุนไพรไทยนั้นเป็นจุดแข็งของประเทศไทย มีการใช้กันมาอย่างยาวนาน และเป็นภูมิปัญญาที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ขออ้างอิงสมุนไพรไทยยอดฮิตตามข่าวการแยกแยะต่างๆ กัน ขอยกตัวอย่าง ที่จะมีการจัดอันดับหรือการยกย่องลำดับเด่นจาก “สรรพคุณ” ที่มีชื่อสมุนไพรไทยต่างๆ ซ้ำๆ กัน เริ่มจาก ปี 2557 ก่อน 5 ชนิดผลักดันสมุนไพร (Thailand Champion Herbal Products : TCHP, 2557) โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ 1. กวาวเครือขาว 2. กระชายดำ 3. ลูกประคบ 4. ไพล และ 5. บัวบก 20 ชนิดสมุนไพรยอดฮิต ที่คนไทยทุกคนรู้จักชื่อดี มีประโยชน์มากมาย ได้แก่ 1. ว่านหางจระเข้ (วุ้นในใบสด) 2. ขมิ้นชัน 3. ทองพันชั่ง 4. กะเพรา 5. กระชายดำ 6. ว่านชักมดลูก 7. กระเจี๊ยบแดง 8. มะขามป้อม 9. ฟ้าทะลายโจร 10. ย่านาง 11. มะรุม 12. ชุมเห็ดเทศ 13. บอระเพ็ด 14. เสลดพังพอน 15. มะแว้ง(มะเขือพวงขม) 16. รางจืด 17. กระวาน 18. กานพลู 19. หญ้าหนวดแมว และ 20. บัวบก 10 พืชผักสมุนไพรสร้างภูมิคุ้มกันต้านโรค ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ มีสารอาหารที่ดีมากมายสำหรับร่างกาย ได้แก่ 1. พลูคาว(ผักคาวตอง) 2. มะกรูด 3. ขิง 4. ไพล 5. ใบบัวบก 6. ผักแพว 7. ฝักเพกา(ลิ้นฟ้า) 8. ผักเชียงดา 9. ผักคะน้า และ 10. มะรุม 10 สมุนไพร ต้านโควิดที่ต้องมีติดบ้าน ได้แก่ 1. ขิง 2. มะขามป้อม 3. สมอพิเภก 4. สมอไทย 5. พลูคาว หรือผักคาวตอง 6. ตะไคร้ 7. กระชายขาว 8. ฟ้าทะลายโจร 9. หูเสือ และ 10. กะเพรา 6 สมุนไพรไทย สมุนไพรพื้นบ้านช่วยต้านโควิด-19 ได้แก่ 1. ฟ้าทะลายโจร 2. กระชายขาว 3. ขิง 4. มะขามป้อม 5. กระเทียม และ 6. ขมิ้นชัน 5 ชนิดฮอต ได้แก่ 1. ฟ้าทะลายโจร 2. ขิง 3. มะขามป้อม 4. ขมิ้นชัน 5. กระเทียม 8 ชนิดขึ้นแท่นโปรดักต์แชมเปี้ยนสมุนไพรต้านโควิด รพ.อภัยภูเบศร ได้แก่ 1. ฟ้าทะลายโจร 2. กระชาย 3. ขมิ้นชัน 4. ขิง 5. มะขามป้อม 6. กระเทียม 7. สันพร้าหอม และ 8. สายน้ำผึ้ง ฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรไทยอื่น ก่อนหน้านี้ช่วงการแพร่ระบาดโควิดมีข้อสงสัยว่า “สมุนไพรไทยกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เกี่ยวกันหรือไม่” จะใช้สมุนไพรรักษา หรือป้องกัน ได้หรือไม่ เพราะโรคโควิดยังไม่มียารักษา และในที่สุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ เพราะฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunostimulant) ในขณะเดียวกันก็มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกัน (Iimmunomodulator) โดยมีผลปรับการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันหลายชนิดในร่างกาย และมีฤทธิ์ต้านไวรัส “ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวเชื้อโควิด” เข้าไปสู่เซลล์ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรไทยอีกหลายชนิดที่ช่วยลดเสี่ยงติดเชื้อโควิดได้ ข่าวดีนิมิตหมายว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนามความร่วมมือ อัพเกรดคุณภาพสมุนไพรไทยสู่สากล ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดมากมีการส่งเสริมให้เรือนจำเป็นคลังสำรอง “สมุนไพร” หวังทำฮับสมุนไพร ตั้งศูนย์วิจัยครบวงจร (เป้าหมายประเทศไทยคือประเทศสมุนไพร) ข่าวฟ้าทะลายโจรไม่มีผลข้างเคียงต่อตับ ข่าวจีนเดินหน้าทำการเพาะปลูกขยายพันธุ์ฟ้าทะลายโจรนับพันไร่ ข่าวเภสัชฯ จุฬาฯ ผลิต “วัคซีนใบยา” (ยาสูบ) ข่าวผลวิจัยวิธีใช้ใบพืชสดและผงบดฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดด้วยตนเอง ข่าวคู่แข่งฟ้าทะลายโจรคือกะเพราที่ไม่มีอันตรายใดกินได้อย่างต่อเนื่อง ข่าวสมุนไพรใบดีหมี หรือ ป่าช้าเหงา หรือ หนานเฉาเหว่ย (สมุนไพรช่วยคุมน้ำตาลในเลือด) กินทีละใบ ใบเดียวกับน้ำผึ้งใช้รักษาโควิด ข่าวประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรฟ้าทะลายโจร (เมื่อ 4 มิถุนายน 2564) ข่าวอินเดียเอาโควิดสายพันธุ์เดลตาอยู่ ได้กลายจากโรคระบาดเป็นโรคประจำถิ่นในอินเดียไปแล้วเพราะอาจสืบเนื่องมาจากการที่คนส่วนใหญ่ในประเทศเกิดภูมิคุ้นกันตามธรรมชาติแล้ว คนอินเดียเกิดภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติไว เพราะคนอินเดียมีความต้านทานดี เช่นจากอาหารการกินสมุนไพร ฯลฯ เป็นต้น ข่าวไม่ดีเริ่มจากข่าวเก่าปี 2557 ข่าวการเปิดเออีซี อนาคต "สมุนไพรไทย" น่าห่วงเพราะ "วัตถุดิบ" สู้อาเซียนไม่ได้ อีกทั้งเจอกฎหมายบีบซ้ำ ข่าวไทยขาดวัตถุดิบสมุนไพรต้องนำเข้าจากจีน ข่าวเกาหลี-ญี่ปุ่น ลงทุนปลูกในไทยแล้วขนกลับไปแปรรูปขายทั่วโลก ข่าวปัจจุบัน เกรงว่าฟ้าทะลายโจรจะเป็นปมใหม่ค้าน “CPTPP” หวั่นครอบครองสิทธิในสายพันธุ์ ข่าวเกษตรกรถูก โจรตระเวนขโมยสมุนไพร “ข่าเหลือง” ข่าวกระชายรักษาโควิด ขิงป้องกันโควิด ขาดตลาด ราคาแพง ข่าว “ผู้คนแห่ซื้อกักตุน” จนฟ้าทะลายโจรสกัดแบบแคปซูล กระชายสกัดยาแคปซูล วิตามินบำรุงร่างกาย ยาเขียวสรรพคุณขับสารพิษหาซื้อไม่ได้ ข่าวพาณิชย์แจ้งจับร้านค้าที่โก่งขายฟ้าทะลายโจร ข่าวอย.ตรวจพบผลิตภัณฑ์ “ฟ้าทะลายโจรปลอม” แอบอ้างใช้เลข อย.ผลิตภัณฑ์อื่น ฯลฯ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีข่าวปลอม (Fake News) หรือข่าวที่ไม่เป็นความจริงมีมากมายในโลกโซเชียลออนไลน์ ทำให้การเผยแพร่ข่าวสารโควิดที่ยังไม่มีการยืนยันรับรอง จะถูกแบน ถูกปิดกั้น ทำให้ข่าวจริงบางอย่างอาจไม่ได้รับการเผยแพร่ เพราะที่จริงข่าวก็คือข่าว แม้ว่าไทยจะมีวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ มีสารสกัดแปรรูปยาสมุนไพรที่มีมูลค่าสูง แต่ก็ติดปัญหา การขาด Know-How (เทคโนโลยีสูง) มีปัญหาการตลาด ในขณะที่ยาเคมีกำลังประสบปัญหา ก็มีข้อจำกัดในประสิทธิภาพการรักษา โดยเฉพาะการรักษากลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังบางชนิดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น โรคหัวใจหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น ปัจจุบันมีคนป่วยด้วยไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ฉะนั้น ด้วย “สถานการณ์วิกฤตโควิด” ช่วงนี้ จึงเป็นโอกาสของ “สมุนไพรไทย” เพื่อเปิดวิกฤตให้เป็นโอกาส ความหวังเป็นหนึ่งในอาเซียน เป็นฮับอาเซียนด้านสมุนไพรเป็นความหวังสุดๆ ที่ไม่ไกลเกิน คนไทยจะได้ลืมตาอ้าปากทางเศรษฐกิจได้บ้าง