ทายาทดีเลอร์ฮีโน่แดนอีสาน ขยายไลน์ธุรกิจร้านอาหาร เขย่าวงการไก่ทอด เปิดตัว “คารายามะ” แบรนด์ไก่ทอดสูตรดั้งเดิมจากญี่ปุ่น ชูรสชาติ มาตรฐาน พร้อมเสิร์ฟใน 10 นาที ประเดิมสาขาเซ็นทรัลพระราม 3 ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ตั้งเป้าครอบคลุมกรุงเทพฯ ภายใน 5 ปี ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า มีพื้นฐานจากครอบครัวนักธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกฮีโน่ในเขตอีสานตอนบน ตั้งแต่เด็กจนโตได้คลุกคลีอยู่กับธุรกิจของที่บ้าน ได้ติดต่อสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลานาน หลังจากจบ ม.6 ในเมืองไทยในปี 2541 ได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเข้าศึกษาด้านวิศวยานยนต์ในวิทยาลัยทาคายาม่า ในจังหวัดกิฟุ และศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยบริหารธุรกิจโยโกฮาม่า จนในปี 2548 ได้กลับมาช่วยงานในธุรกิจครอบครัวมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ด้วยความเป็นคนชอบกินชอบเที่ยว ชอบทำอาหาร และชื่นชอบในเสาะหาของอร่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เป็นหนึ่งในนักชิมตัวยง และมีความคิดว่า เมื่อตัวเองได้พบของอร่อยแล้วอยากให้ผู้อื่นได้กินอาหารอร่อยๆ เหมือนกันด้วย โดยเมื่อเดือนพ.ย.59 ได้กลับไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง และได้ชิมไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่นแบรนด์ “คารายามะ” จนติดใจ เป็นที่ถูกใจของทุกคนในครอบครัว ความคิดในการขยายธุรกิจสู่ร้านอาหารจึงเกิดขึ้น “ผมได้ชิมแล้วรู้สึกว่ามันอร่อย ถูกปากคนไทยจึงหาข้อมูลแล้วเขียนอีเมลไปหาบริษัทเขา ด้วยความที่เราพูดและเขียนภาษาญี่ปุ่นได้ พร้อมทั้งความเข้าใจในวัฒนธรรม ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีกว่าปกติ เหมือนคนคุยกันรู้เรื่อง จากนั้นคุยกันไปคุยกันมา และได้บินไปเจรจาธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม แม้ไม่มีประสบการณ์ แต่เขามีความเชื่อใจในตัวเราสูง จึงให้ทำแบรนด์เขา โดยก่อนหน้านี้เคยมีคนไปขอแบรนด์มาขยายตลาดเยอะมาก” ปิยวัลย์ ทวีแสงสกุลไทย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “คารายามะ” เป็นแบรนด์ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า “คาราอะเกะ” สูตรดั้งเดิมมาจากร้านเล็กๆ ข้างวัดอาซากุสะ จนวันหนึ่ง บริษัทอาร์คแลนด์ เซอร์วิส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารในญี่ปุ่นอยู่หลายแบรนด์ เข้าไปเจรจาขอซื้อสูตรมาเพื่อขยายแบรนด์“คารายามะ” ให้ครอบคลุมทั้งญี่ปุ่น จากนั้นจนถึงปัจจุบัน ร้านไก่ทอดคารายามะในญี่ปุ่น มีสาขาราว 30 สาขา ภายในเวลา 3 ปี นับเป็นการเติบโตที่รวดเร็ว อีกทั้งยังมีผู้ซื้อสิทธิ์ในการขยายแบรนด์คารายามะ ในเกาหลี,ไต้หวัน และฮ่องกง โดยเมืองไทยนับเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชีย โดยบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด ได้รับความไว้วางใจให้เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในประเทศไทย และมีการต่อสัญญากันทุกๆ 5 ปี “คารายามะ เป็นไก่ทอดสูตรดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่มีสูตรลับของน้ำจิ้มที่รสชาติอร่อย ตัวไก่ทอดรสชาติกรอบนอก แต่เนื้อข้างในฉ่ำ ไม่เลี่ยน จากเดิมคนญี่ปุ่นจะมองว่าไก่ทอดเป็นของทานเล่น แต่คารายามะเอามาทำให้กินกับข้าวได้อย่างลงตัว มีซอสได้เลือกหลายแบบ ทั้งนี้อาหารประเภทไก่เป็นอาหารที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา เชื่อมั่นว่า ด้วยรสชาติที่ไม่เลี่ยน และกินเป็นมื้ออาหารที่อิ่มอร่อยได้มื้อหนึ่งในเวลาอันรวดเร็ว จะทำให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงและชื่นชอบในคารายามะ” ทั้งนี้ด้วยมาตรฐานและความพิถีพิถันสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ ธีรวัฒน์ และปิยวัลย์ พร้อมทีมงานอีก 2 คน ต้องเดินทางเข้ารับการฝึกงานในร้านคารายามะ สาขามินามิฮาชิโมโต ในจังหวัดคานากาว่า เป็นเวลา 1 เดือน ต้องเรียนรู้การทำงานทุกขั้นตอนเป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน เสมือนพนักงานคนหนึ่งภายในร้าน ได้เรียนรู้ตั้งแต่งานระดับพื้นฐาน ไปจนถึงงานบริหารจัดการ ภายใต้มาตรฐานคุมเข้ม โดยทั้งเน้นย้ำถึงความพิถีพิถันของอาหารญี่ปุ่นที่ทำด้วยมือเกือบทุกขั้นตอน แต่ต้องได้มาตรฐานเดียวกันทุกจาน ภายใต้เวลาที่กำหนด นั่นคือเสน่ห์ของศิลปะการทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ธีรวัฒน์ เล่าว่า ได้เรียนรู้ถึงความพิถีพิถันอย่างละเอียดทุกอย่าง แม่แต่การจัดจาน จะคลาดเคลื่อนเล็กน้อยไม่ได้ กะหล่ำปลีต้องเรียงสูง 8 เซนติเมตร น้ำหนักของผักต้องได้ตามกำหนด มีคนคอยตรวจก่อนถึงมือลูกค้า ซึ่งทุกความพิถีพิถันะมาอยู่ในร้านคารายามะที่เมืองไทย โดยมีการคิวซีจากทางญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง “จุดเด่นสำคัญนอกเหนือจากรสชาติของอาหารแล้ว คือการเสิร์ฟภายใน 10 นาที การทำอาหารอร่อยให้ถูกต้อง ใครๆก็ทำได้ แต่ทำอย่างไรให้ทั้งอร่อย ถูกต้อง และรวดเร็ว นับเป็นประสบการณ์ที่ดีของผมและน้องสาว ซึ่งเขาไม่ได้มองว่าเราเป็นผู้บริหาร แต่ต้องรู้ทุกเรื่องภายในร้าน ลองฝึกทำความสะอาดร้าน จัดจาน เช็ดโต๊ะ เรียกว่าเจองานหนัก แต่คุ้มค่า เพราะล้วนเต็มไปด้วยความรู้ ความพิถีพิถัน ซึ่งเป็นที่มาของความอร่อยและมีมาตรฐาน” สำหรับไก่ทอดสูตรพิเศษของคารายามะ มีให้เลือกประมาณ 10 แบบ ความพิถีพิถันยังส่งไปถึงการคัดเลือกวัตถุดิบ ต้องใช้ไก่ที่เลี้ยงโดยไม่ใช้สารเร่งฮอร์โมนเท่านั้น ส่วนเครื่องปรุงทั้งหมดเกือบ 100% นำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อให้ตามมาตรฐานของต้นตำรับอย่างแท้จริง ร้านคารายามะ สาขาแรก จะเปิดตัวในวันที่ 20 ธ.ค.60 บนชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 3 มีพื้นที่ 100 ตารางเมตร สามารถรองรับได้ 50 ที่นั่ง และมีแผนการขยายอีก 2 สาขา ในปี 2561 แต่ละสาขาจะใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท โดยได้คาดการณ์จุดคุ้มทุนภายใน 5 ปี และหวังว่าภายใน 5 ปีแรก ร้านคารายามะจะครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะทำการขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ต่อไป นับเป็นอัตราการเติบโตที่เคียงคู่กันไปกับร้านคารายามะในญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีแผนการนำแบรนด์อาหารญี่ปุ่นที่อยู่ในความดูแลของอาร์คแลนด์ฯ มาทำตลาดในไทยเพิ่มเติมอีกด้วย นับเป็นความท้าทายหนึ่ง ที่จะนำอาหารพื้นๆสไตล์ญี่ปุ่นมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยเราอยากให้คารายามะ เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงลูกค้าเหมือนเพื่อนเข้าถึงเพื่อน ให้ลูกค้าทุกคนรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่รู้จะกินอะไรมาคารายามะ จะนัดเพื่อน นัดครอบครัว หรือจะมาคนเดียวมาคารายามะ โดยจะมีการสื่อสารแบรนด์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่าน Facebook : karayamathailand Line : @karayamathailand จากนี้ไป “คารายามะ” จะเป็นอีกแบรนด์ร้านอาหารหนึ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทย โดยมี 2 นักบริหารรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจจากความชอบด้วยความจริงจังและตั้งใจ และหวังที่จะให้คนไทยได้รับประทานอาหารที่อร่อยภายใต้คุณภาพและมาตรฐานที่ดี พร้อมกับการใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคารายามะร่วมกัน