นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขตตรวจราชการ ที่ 4,5 เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสหกรณ์สู่ความเข้มแข็ง” ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ที่ 16 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้สมาชิกเข้าใจแนวทางการดำเนินงานรูปแบบสหกรณ์ สิทธิ หน้าที่ และการมีส่วนร่วมในการกำกับ ดูแลกิจการสหกรณ์ และพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการสหกรณ์ ผู้นำกลุ่มในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนแผนงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิก ตลอดจนเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการสหกรณ์ให้เข้มแข็งและสามารถขับเคลื่อนนโยบายรัฐให้บรรลุเป้าหมาย
นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ กล่าวว่า ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งเน้นในการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ ทั้งในด้านการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการมาทำธุรกิจกับสหกรณ์ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และการลดข้อบกพร่องในสหกรณ์ ตามนโยบายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ) ในการมุ่งเน้นให้เกษตรกรมีการทำการเกษตรที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนลดลง ส่งผลให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง กับการกล่าวถึง ปี 2561 ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ประกาศให้ เป็นปีแห่งการพัฒนาคน และยกระดับการบริหารจัดการ
ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้นำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายกฤษฎา บุญราช) ในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดปรับปรุงการทำงานจากนโยบายเดิม โดยยึดหลัก 3 ต. (ต่อ แต่ง เติม) กล่าวคือ ต่อ : คือการนำนโยบายเดิมที่ทำอยู่แล้วและได้ผลดี เกิดประโยชน์ มาทำต่อและขยายผลให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เติม : คืองานที่ทำอยู่แล้ว ควรจะเพิ่มอะไรที่จำเป็นเข้าไป เพื่อให้ผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น และ แต่ง : คือโครงการเดิมที่ไม่ดี/ไปต่อไม่ได้ ให้นำมาปรับปรุง/เปลี่ยนแปลง/บูรณาการให้ดียิ่งขึ้น มาให้ผู้นำสหกรณ์ได้รับทราบ
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ยังได้ให้แนวคิดกับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการที่เข้าร่วมประชุมว่า ขอให้บริหารงานสหกรณ์ด้วยความรอบคอบ ตามบทบาท หน้าที่ที่ระบุไว้ในข้อบังคับของสหกรณ์ เพราะหากมีข้อบกพร่องที่เกิดจากการปล่อยปละละเลยหรือประมาทเลินเล่อ กรรมการย่อมต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ กล่าวว่า ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งเน้นในการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ ทั้งในด้านการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการมาทำธุรกิจกับสหกรณ์ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และการลดข้อบกพร่องในสหกรณ์ ตามนโยบายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ) ในการมุ่งเน้นให้เกษตรกรมีการทำการเกษตรที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนลดลง ส่งผลให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง กับการกล่าวถึง ปี 2561 ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ประกาศให้ เป็นปีแห่งการพัฒนาคน และยกระดับการบริหารจัดการ
ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้นำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายกฤษฎา บุญราช) ในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดปรับปรุงการทำงานจากนโยบายเดิม โดยยึดหลัก 3 ต. (ต่อ แต่ง เติม) กล่าวคือ ต่อ : คือการนำนโยบายเดิมที่ทำอยู่แล้วและได้ผลดี เกิดประโยชน์ มาทำต่อและขยายผลให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เติม : คืองานที่ทำอยู่แล้ว ควรจะเพิ่มอะไรที่จำเป็นเข้าไป เพื่อให้ผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น และ แต่ง : คือโครงการเดิมที่ไม่ดี/ไปต่อไม่ได้ ให้นำมาปรับปรุง/เปลี่ยนแปลง/บูรณาการให้ดียิ่งขึ้น มาให้ผู้นำสหกรณ์ได้รับทราบ
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ยังได้ให้แนวคิดกับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการที่เข้าร่วมประชุมว่า ขอให้บริหารงานสหกรณ์ด้วยความรอบคอบ ตามบทบาท หน้าที่ที่ระบุไว้ในข้อบังคับของสหกรณ์ เพราะหากมีข้อบกพร่องที่เกิดจากการปล่อยปละละเลยหรือประมาทเลินเล่อ กรรมการย่อมต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย