เมื่อ​​วันที่ 29 ส.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาพบว่า มีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ไปภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศอินเดีย และบริเวณทะเลจีนใต้ จากแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา ณ เวลา 01.00 น. วันนี้ยังพบว่าร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีโอกาสฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดเข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำในบริเวณทะเลจีนใต้ และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการในเรื่องน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการเน้นย้ำในเรื่องการปฏิบัติการฝนหลวงที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ร่วมกับกองทัพบก กองทัพอากาศ ให้การสนับสนุนด้านกำลังพล อากาศยาน และเครื่องมืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ว่าการปฏิบัติการฝนหลวงยังคงมีความจำเป็นในการช่วยเติมเต็มให้กับพื้นที่การเกษตรที่ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตร และช่วยเติมน้ำต้นทุนให้แก่พื้นที่ลุ่มรับน้ำต่างๆ ต่อไป ​ด้านผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก อุทัยธานี กำแพงเพชร ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา สุราษฎร์ธานี สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา และอ่างเก็บน้ำจำนวน 7 แห่ง ​สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงแต่ละครั้งต้องอาศัยเงื่อนไขสภาพอากาศเป็นตัวตั้ง โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีการตรวจวัดสภาพอากาศในธรรมชาติและทำการวิเคราะห์พบว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในช่วงเช้านี้สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ - หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ - หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร - หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ มหาสารคาม บุรีรัมย์ - หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ - หน่วยฯ สุราษฎร์ธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุราษฎร์ธานี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา ​​สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ไม่สามารถปฏิบัติการฝนหลวงได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติตต่อเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ covid-19 เข็มที่ 2 และอีก 6 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน เพื่อเตรียมความพร้อมขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายได้ทันที หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการ ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง ติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสามารถให้ข้อมูลเชิงพื้นที่ในเรื่องของความต้องการน้ำ ปริมาณฝนที่ตก เพื่อใช้ประกอบการปฏิบัติการฝนหลวงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account: @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100