เจ้าของธุรกิจรถบรรทุกหกล้อเครียดปัญหาชีวิตรัก 3 เส้าตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยลูกซองยาวดับสยอง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา 07.00 น.พันตำรวจโทอภิรัฐ ทองฉิม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตายที่บ้านเลขที่ 610/4 ซอยหลังห้างแมคโคร ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนพร้อมแพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุพบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวถูกดัดแปลงเป็นโรงงานเชื่อมต่อเหล็กขนาดเล็ก เบาะนั่งด้านหน้าพบศพนายวัฒนชัย พันจินา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ซอยทุ่งข่า ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สภาพศพศีรษะเปิดก้อนมันสมองกระจายมาอยู่ด้านนอก บนพื้นพบอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ 1 กระบอก บนพนักพิงเบาะที่นั่งพบร่องรอยเศษชิ้นส่วนเลือดและสมองกระจาย ส่วนบนหลังคาพบชิ้นส่วนกระจายเปื้อนเป็นวงกว้างจากแรงอัดของกระสุนปืน
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่าช่วงเวลาประมาณ 06.30 น.นางปรีดา พันจินา อายุ 78 ปีมารดาผู้ตาย และครอบครัวของผู้ตายที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้กันได้ยินเสียงปืน จึงออกมาดูพบว่านายวัฒนชัย ใช้อาวุธปืนยาวยิงตัวเองเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ขณะที่นางปรีดา พันจินา มารดาผู้ตายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่านายวัฒนชัยลูกชายเป็นเจ้าของธุรกิจรถบรรทุกหกล้อ มีความเครียดหลักจากปัญหาชีวิตเนื่องจากมีข้าราชการหญิงรายหนึ่งมาติดพันนายวัฒนชัย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองตัดสินใจว่าจะไปร้องเรียนหญิงคนนี้กับผู้บังคับบัญชาของเขาบนศาลากลางจังหวัด ส่วนตัวเองนั้นได้ต่อว่าต่อขานดุด่าว่ากล่าวนายวัฒนชัยมาโดยตลอดเพราะว่านายวัฒนชัยนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว ขณะที่นายวัฒนชัยเองได้รับปากว่าจะเลิกรากับหญิงคนนี้ แต่หญิงคนนี้กลับไม่ยอมเลิกราทำให้นายวัฒนชัยเกิดความเครียดอย่างมาก เนื่องจากจะกลับไปคืนดีกับครอบครัวก็ไม่ได้ ทั้งยังบ่นว่าจะฆ่าตัวตัวตายส่วนแม่เองนั้นได้เก็บอาวุธปืนสั้นไปซ่อนไว้แล้ว แต่ไม่ได้เก็บอาวุธปืนยาวจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตามภายหลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมหลักฐาน แม้ทางมารดาและครอบครัวของนายวัฒนชัยไม่ติดใจในสาเหตุการตาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำสำนวนสอบสวนสาเหตุการตายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และมอบร่างของนายวัฒนชัยให้กับครอบครัวไปดำเนินการต่อไปแล้ว
ในที่เกิดเหตุพบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวถูกดัดแปลงเป็นโรงงานเชื่อมต่อเหล็กขนาดเล็ก เบาะนั่งด้านหน้าพบศพนายวัฒนชัย พันจินา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ซอยทุ่งข่า ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สภาพศพศีรษะเปิดก้อนมันสมองกระจายมาอยู่ด้านนอก บนพื้นพบอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ 1 กระบอก บนพนักพิงเบาะที่นั่งพบร่องรอยเศษชิ้นส่วนเลือดและสมองกระจาย ส่วนบนหลังคาพบชิ้นส่วนกระจายเปื้อนเป็นวงกว้างจากแรงอัดของกระสุนปืน
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่าช่วงเวลาประมาณ 06.30 น.นางปรีดา พันจินา อายุ 78 ปีมารดาผู้ตาย และครอบครัวของผู้ตายที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้กันได้ยินเสียงปืน จึงออกมาดูพบว่านายวัฒนชัย ใช้อาวุธปืนยาวยิงตัวเองเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ขณะที่นางปรีดา พันจินา มารดาผู้ตายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่านายวัฒนชัยลูกชายเป็นเจ้าของธุรกิจรถบรรทุกหกล้อ มีความเครียดหลักจากปัญหาชีวิตเนื่องจากมีข้าราชการหญิงรายหนึ่งมาติดพันนายวัฒนชัย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองตัดสินใจว่าจะไปร้องเรียนหญิงคนนี้กับผู้บังคับบัญชาของเขาบนศาลากลางจังหวัด ส่วนตัวเองนั้นได้ต่อว่าต่อขานดุด่าว่ากล่าวนายวัฒนชัยมาโดยตลอดเพราะว่านายวัฒนชัยนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว ขณะที่นายวัฒนชัยเองได้รับปากว่าจะเลิกรากับหญิงคนนี้ แต่หญิงคนนี้กลับไม่ยอมเลิกราทำให้นายวัฒนชัยเกิดความเครียดอย่างมาก เนื่องจากจะกลับไปคืนดีกับครอบครัวก็ไม่ได้ ทั้งยังบ่นว่าจะฆ่าตัวตัวตายส่วนแม่เองนั้นได้เก็บอาวุธปืนสั้นไปซ่อนไว้แล้ว แต่ไม่ได้เก็บอาวุธปืนยาวจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตามภายหลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมหลักฐาน แม้ทางมารดาและครอบครัวของนายวัฒนชัยไม่ติดใจในสาเหตุการตาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำสำนวนสอบสวนสาเหตุการตายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และมอบร่างของนายวัฒนชัยให้กับครอบครัวไปดำเนินการต่อไปแล้ว