วันที่ 27 ส.ค. 64 ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษเปิดเผยว่าเมื่อเวลา 12.55 น. ได้ยินเสียงร้องตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างบ้านจึงเดินออกไปส่องดูว่ามีอะไร เกิดขึ้น ได้พบกับนางนิรมล ปลื้มมนัส แม่บ้าน ซึ่งมีหน้าที่มาดูแล เก็บกวาดบ้านและซักรีดให้อาจารย์เต๋า และพบกับอาจารย์กนกอร มูลสาร ครู ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย และพบลูกศิษย์สาวอีกคนกำลังยืนเคาะประตูเรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตูบ้าน บ้านดังกล่าวเป็นบ้านของนายกิตตินันท์ ศิละวงษ์ หรืออาจารย์เต๋า ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ตนจึงได้ช่วยเรียกก็ไม่เปิดประตูเช่นกัน รู้สึกเอะใจว่าคงมีอะไรข้างใน จึงได้โทรปรึกษากับนายศิริเกษ หมายสุข ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษซึ่งเป็นผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆและได้ให้คำแนะนำว่าให้โทร แจ้ง191 ประสานตำรวจอย่าเข้าไปโดยพละการ ต่อมา ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทอง และได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่บ้านเลขที่ 1561/1 ถ.ศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ส่องเข้าไปในบ้านและทำการเคาะประตู ก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากในบ้านอย่างรุนแรงมาก สภาพบ้านถูกล็อคประตูจากด้านใน เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้แจ้งให้ญาติของเจ้าของบ้านให้อนุญาตให้พังประตูเข้าไปในบ้านได้ จากนั้นได้ใช้เหล็กชะแลงงัดและใช้เท้าถีบประตูทำให้ประตูเปิดออกได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ ตร.และญาติเข้าไปในบ้านพบศพของอาจารย์เต๋า สวมกางเกงขาสั้นมีผ้าห่มคลุมร่างอยู่ สภาพศพกำลังขึ้นอืดส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงมาก นอนอยู่บนโซฟา ซึ่งร.ต.อ.วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และคณะได้ทำการตรวจสอบภายในบริเวณบ้านแล้ว ไม่พบว่ามีร่องรอยของการต่อสู้หรือว่า มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกายทำให้อาจารย์เต๋าเสียชีวิตแต่อย่างใด จึงได้แจ้งให้แพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษทราบเพื่อมาทำการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์กล่าวว่าตนและญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเมื่อพบศพอาจารย์เต๋ารู้สึกเสียใจและอาลัยมาก พวกเราหลายคนพากันกอดกันร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจอย่างหนัก เนื่องจากว่าอาจารย์เต๋า เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยใจดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เป็นผู้กำกับการแสดงละครแสงสีเสียงศรีพฤทเธศวร ที่ยิ่งใหญ่คู่กับอาจารย์จิ๊ก และอาจารย์อีกหลายคน ในงานเทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ เป็นผู้ช่วยงานจังหวัดตลอดมากว่าสามสิบปี เป็นครูนาฏศิลป์ชื่อดัง เป็นคนดีศรีสะเกษที่มีแต่คนรักและยอมรับในความสามารถของการออกแบบการแสดงแทบทุกงานของจังหวัดศรีสะเกษ นางนิรมล ปลื้มมนัส แม่บ้านอาจารย์เต๋าที่เป็นผู้ที่พบอาจารย์เต๋าเป็นคนสุดท้ายกล่าวว่า ตนทำงานกับอาจารย์เต๋ามานาน ปกติจะนำผ้าที่ซักรีดแล้วมาส่งและเก็บเงิน แต่เมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. ของวันพุธที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาตนก็จะนำผ้าที่ซักรีดแล้วมาส่งเช่นเดิมได้เคาะประตูบอกอาจารย์เต๋าว่าเอาผ้ามาส่งนะ ซึ่งได้ยินเสียงอาจารย์เต๋าตอบรับและมาเปิดประตูให้ เมื่อตนยกเสื้อผ้าเข้าไปเก็บ อาจารย์เต๋าเอาแบ๊งค์ใบละ 1,000 บาทมาให้ แต่ตนไม่มีเงินทอนจึงบอกว่าเอาไว้ก่อนจะมารับวันหลัง วันต่อมาวันที่ 26 ส.ค.ตนได้ไปเคาะประตูก่อนเวลาที่อาจารย์เต๋าจะไปสอนที่โรงเรียน เคาะแล้วก็ไม่เปิด ก็คิดว่าอาจารย์เต๋าคงจะนอนหลับ เพราะปกติถ้านอนหลับแล้วจะไม่รู้สึกตัว วันนี้ 27 ส,ค,ก็ได้มาเคาะประตูอีก แต่ไม่มีเสียงตอบแต่อย่างใดและได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงออกมา ตอนแรกตนคิดว่าคงมีหนูตายจึงมีกลิ่นเหม็นหรือมีขยะเน่าที่อยู่หน้าบ้าน เมื่อเดินรอบบ้าน ก็พบว่ามีกลิ่นเหม็นออกมาจากภายในบ้านรุนแรง คาดว่าอาจารย์เต๋าคงจะเสียชีวิตแล้ว อาจารย์กนกอร มูลสาร ครู ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานคนสนิท อาจารย์เต๋า กล่าวว่า เมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.64) ที่ผ่านมา ตนได้มารับอาจารย์เต๋าไปฉีดวัคซีนยี่ห้อเอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 โดยเข็มแรกเป็นการฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค ซึ่งหลังจากพาไปฉีดวัคซีนแล้วอาจารย์เต๋ายังได้ไปช่วยงานศพของญาติภายหลังจากฉีดวัคซีน ซึ่งช่วงค่ำตนได้โทรถามว่ามีอาการข้างเคียงหรือว่าเป็นไข้หรือไม่ อาจารย์เต๋าก็บอกว่าไม่มีอาการใด ๆเลย และยังทักทายทาง LINE กับตนตลอด แต่เมื่อวานนี้ก็รู้สึกสะกิดใจมากเพราะว่ารู้สึกเงียบมากในสองวันนี้คือวันพุธกับวันพฤหัสที่ผ่านมา วันนี้จึงตั้งใจว่าจะพาอาจารย์เต๋าไปฟอกไตเพราะอาจารย์เต๋ามีโรคประจำตัวคือโรคความดัน โรคเบาหวานและโรคไตจะต้องฟอกไต 2 ครั้งต่อสัปดาห์คือวันพุธกับวันศุกร์ ฟอกไตที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ แต่เมื่อมาเรียกประตูก็ไม่เปิดจนกระทั่งทราบว่าเสียชีวิตในบ้านที่ไม่มีใครทราบเลยรู้สึกเศร้าเสียใจมาก และรู้สึกสงสัยว่าอาจารย์เต๋าเสียชีวิตครั้งนี้เป็นเพราะไม่ได้ฟอกไตตามนัดทำให้ไตวายหรือว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลศรีสะเกษมารับศพอาจารย์เต๋าออกจากบ้านเพื่อไปโรงพยาบาล ได้เกิดฝนตกเทลงมาอย่างหนัก ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกแปลกใจมากและบอกว่าฟ้าร้องให้ส่งศพอาจารย์เต๋าคนดีศรีสะเกษ เพราะหลังจากเคลื่อนศพไปแล้ว ฝนก็หยุดตก ถนนแห้งอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าแปลกใจมาก