เผยแล้วผลผ่าพิสูจน์ศพ “น้องนาเดียร์” จมบ่อน้ำข้างบ้านเสียชีวิตและถูกพี่เลี้ยงนำศพใส่ถุงปุ๋ยฝังดินเพื่ออำพรางศพ ด้านพ่อและแม่ เผยยอมรับเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์อย่าฝากเด็กไว้กับผู้อื่นส่วนคดีปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายและเตรียมฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับนางเจี๊ยบพี่เลี้ยงด้วย (27 ส.ค.64) น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี  และนายอัมพล ลือบางใหญ่ อายุ 34 ปี แม่และพ่อ ของ ด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี หรือน้องนาเดียร์ ผู้เสียชีวิต ได้พาลูกสาวคนโต ด.ญ. ชโรชา แอบเสมา อายุ 4 ปี น้องโมเดล เป็น ลูกครึ่งอังกฤษ เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.วิโรจน์ เจริญใจ สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธารามเพื่อสอบปากคำประกอบในสำนวนคดีการเสียชีวิตของน้องนาเดียร์ ที่ สำนักงานอัยการภาค 7 อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีบุตรสาวคนเล็กวัย 12 ปี ของนางเจี๊ยบ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำด้วย โดยเหตุเกิดจากกรณีที่ น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี ได้ทำการว่าจ้างนางเจี๊ยบ ผู้เป็นพี่สะใภ้ให้ดูแลลูกสาว 2 คน คือด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี หรือน้องนาเดียร์ ผู้เสียชีวิต ได้พาลูกสาวคนโต ด.ญ. ชโรชา แอบเสมา อายุ 4 ปี น้องโมเดล เป็น ลูกครึ่งอังกฤษ ภายหลังเกิดเหตุน้องนาเดียเสียชีวิต นางเจี๊ยบได้นำศพไปฝังไว้ที่ท้ายไร่อ้อย ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ ในพื้นที่ ม.2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จากนั้นได้ขี่จักรยานยนต์พาน้องโมเดลและลูกสาวของนางเจี๊ยบหลบหนีไป จนถูกจับได้ที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทาง 2 ฝ่ายเดินทางกลับ จากนั้น น.ส.สุรินทร์ และนายอัมพล พ่อและแม่ของน้องนาเดียร์ ได้สอบถามทาง พ.ต.ท.วิโรจน์ เจริญใจ สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธาราม ถึงผลการวินิจฉัยของแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ทราบว่า ผลชันสูตรไม่พบสิ่งผิดปกติ และยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตของน้องนาเดียร์ได้ เนื่องจากสภาพศพมีการยุบตัว และเปลี่ยนสภาพมาก เนื่องจากเด็กเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน และทางเจ้าหน้าที่นิติเวชได้ส่งชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน อาทิ ปอด ตับ หัวใจ ไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด ที่ใช้เวลาตรวจพิสูจน์ประมาณ 30 วัน พบว่าชิ้นส่วนต่างๆมีสภาพเน่า ไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ จึงรายงานผลชันสูตรว่า “ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้เนื่องจากสภาพศพมีการเปลี่ยนแปลงหลังการตายอย่างมาก” ส่วนคดีตอนนี้นางเจี๊ยบ ผู้เป็นพี่สะใภ้ ได้ถูกตั้งข้อหาไว้ 3 ข้อหา  คือ กระทำความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งความตาย และ การทำโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสี่ยมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ รวมทุกข้อหาจะถูกตัดสินจำคุกไม่เกิน 13 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการตัดสินของศาล เพราะ นางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว ถูกจำคุกแล้วในช่วงการสอบสวนคดี อีกทั้งต้องดูผลการรับสารภาพในข้อหา ก็อาจจะได้รับการลดโทษรวมไปถึงการประพฤติตัวในขณะจำคุกด้วย ในส่วนการจะเรียกร้องค่าเสียหายทางญาติก็สามารถดำเนินการได้ ในวันขึ้นศาลสามารถยื่นเรื่องต่อศาลได้เช่นกัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน น.ส.สุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกโล่งแล้ว สำหรับผลการชันสูตรเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถบอกสาเหตุการตาย เขาบอกตรวจไม่ได้ทุกอย่างคือเน่าหมดเลย หลังจากให้ปากคำแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่ต้องติดค้างอะไรแล้ว ในส่วนของคดีก็รอตำรวจโทรมาอีกครั้งตอนจะขึ้นศาล ส่วนการเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมนั้นต้องรอดูอีกครั้งตอนขึ้นศาล