ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล
มีอีพี 5 ชุดกับอัลบั้มรวมเพลง-จากอีพี. 2 ชุด แต่นี่คือสตูดิโออัลบั้มเต็มชุดแรกของ เอช.อี.อาร์. อ่านออกเสียงง่ายๆว่า “เฮอร์” ชื่อในวงการของ กาเบรียลลา ซาร์เมียนโต วิลสัน นักร้อง/นักแต่งเพลงสาวผิวสีชาวอัฟริกัน อเมริกัน-ฟิลิปปินส์วัย 24 จากแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่เชิงเป็นคนหน้าใหม่ทีเดียวนัก เพราะนอกจากจะเคยมีผลงานมาแล้วในนาม เฮอร์ แต่เธอยังเป็นที่คุ้นเคยกันในเวทีรางวัล ทั้ง แกรมมี่ และ โซล เทรน มิวสิก ทั้งในฐานะผู้ชนะและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตลอดหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีงานเพลงออกมาให้ฟังกันตั้งแต่ปี 2016
และเป็นอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยบทเพลงมากมายถึง 21 เพลง เรียกว่าจัดหนักและจัดเต็มให้สมกับเป็นงานทางการชุดแรก ที่รวบรวมตัวตนและแนวทางของเธอเอาไว้ชัด ให้คนที่เพิ่งทำความรู้จักได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณอาร์แอนด์บี/โซลในแบบ เฮอร์ กันเต็มๆ
ฝีไม้ลายมือในการเล่นดนตรีและทำเพลงของเธอไม่ธรรมดา อายุแค่ 10 ขวบก็เล่นเปียโนและร้องเพลงของ อลิเชีย คีย์ส ในรายการ Today Show สองปีต่อมา ชนะประกวดรายการ The Next Big Thing ของ เรดิโอ ดิสนีย์ และเมื่ออายุ 14 ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินบันทึกเสียงกับ เจ เรคอร์ดส์/อาร์ซีเอ เรคอร์ดส์ มี “Something to Prove” เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวโดยใช้ชื่อจริง แต่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด ก่อนจะกลับมาในชื่อใหม่ เฮอร์ ที่ย่อมาจาก Having Everything Revealed ตอน 19 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็กลายเป็นดาวเด่นในวงการเพลงที่น่าจับตา
Back of My Mind ผลงานชิ้นล่าสุดของ เฮอร์ เป็นอัลบั้มอาร์แอนด์บี/โซลร่วมสมัยที่มีสุ้มเสียงแบบเก่าผสมอยู่กลมกล่อม เปิดตัวอัลบั้มได้น่าตื่นตากับ “We Made It” ที่เธอโชว์ความสามารถในการโซโล่กีตาร์ได้ดีงามไม่แพ้การร้อง และในครึ่งแรกของอัลบั้มก็ชวนติดตามมากกว่าครึ่งหลัง นอกจากเพลงแรกแล้วก็ยังมี “Damage” ที่เธอนำเมโลดี้เพลง “Making Love in the Rain” ของ เฮิร์บ อัลเพิร์ท จากปี 1987 มาแซมพ์ฯได้น่าฟัง แล้วเธอก็ใส่อารมณ์ร้องได้ลึกจับใจ
มีแขกรับเชิญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คริส บราวน์ หนึ่งในนักร้องอาร์แอนด์บียุคหลัง 2000 ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด, ธันเดอร์แคท มือ/นักร้องเจ้าของรางวัล แกรมมี่ ปี 2016 จากเพลง “These Walls” จนถึงแรปเปอร์/โปรดิวเซอร์ฝีมือไม่ธรรมดาอย่าง ไท ดอลลาร์ ไซน์, คอร์เด, ดีเจ.คาเลด, ยัง บลู, ลิล เบบี้, ไบรสัน ทิลเลอร์ และ วายจี ช่วยสร้างสีเพลงที่แตกต่างกันให้ตัวองค์รวมของอัลบั้มไม่ซ้ำซากและไม่น่าเบื่อเกินไป แม้ว่าบางเพลงจะดูธรรมดาไปหน่อยอย่าง “Come Through” ไม่ค่อยมีแรงดึงดูดอย่างที่น่าจะเป็น
ถ้าตัดเพลงที่เธอทำงานร่วมกับศิลปินอื่นออกไป เพลงที่เหลือซึ่ง เฮอร์ โชว์เดี่ยว จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเพลงช้าที่มูดแอนด์โทนเดินไปในทางเดียวกันเกือบทั้งหมด จะมีที่น่าสนใจก็คงเป็นเพลง “Hold On” ที่ฟังแล้วคิดถึง พรินซ์ ผู้ล่วงลับกับสุ้มเสียงดนตรีแบบมินนิอาโพลิส ซาวนด์ ที่ เฮอร์ จัดการออกมาได้ลงตัว ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเพลงช้าของเธอไม่ดี อันที่จริง เพลงเหล่านั้นไพเราะทีเดียว-หากฟังแยก ไม่ใช่ฟังต่อเนื่องในเวลา 80 นาทีเศษอย่างนี้
แต่หากตัดจุดด้อยในเรื่องความซ้ำของเพลงออกไป Back of My Mind จัดเป็นงานเพลงอาร์แอนด์บี/โซลร่วมสมัยที่ดีชุดหนึ่งทีเดียว ดนตรี (โดยรวม) ดี เสียงร้องดี จัดเรียงเพลงได้ลื่นไหลนุ่มนวล ฟังเพลินแบบไม่มีกดข้าม สำหรับคอเพลงหวาน นี่คือของโปรด
21 เพลงในอัลบั้มนี้ อาจไม่ดีงามไปเสียทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้เห็นว่า กาเบรียลลา ซาร์เมียนโต วิลสัน หรือ เฮอร์ ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ และคงไม่ผิดถ้าหากจะคาดหวังจากเธอในงานชิ้นต่อๆไป