เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้วแต่ยังคงมีการกระจายตัวของฝนน้อยและมีฝนตกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางในบางพื้นที่ ส่งผลให้น้ำในพื้นที่การเกษตรไม่เพียงพอ ประกอบกับช่วงนี้ประเทศไทยมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังอ่อน และร่องมรสุมหรือร่องฝนยังไม่เกิดการเซ็ตตัว ซึ่งจากข้อมูลการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ร่องมรสุมหรือร่องฝนอาจมีการเซ็ตตัวในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะส่งผลให้อาจมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะเดียวกันกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับเหล่าทัพที่สนับสนุนกำลังพลและอากาศยาน ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนอย่างเต็มที่ สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.64) ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดกำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช สำหรับในช่วงเช้านี้สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก สุโขทัย ลำปาง กำแพงเพชร ลำพูน และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล แม่มอก - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กำแพงเพชรเพชรบูรณ์ พิจิตร และ จ.พิษณุโลก - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำกระเสียว ห้วยเทียน และเขื่อนศรีนครินทร์ - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคกลาง - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น หนองบัวลำภู และ จ.ชัยภูมิ - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และ จ.ชัยภูมิ - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ และ จ.ชัยภูมิ - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สระแก้ว ฉะเชิงเทรา พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองสียัด คลองระบม และห้วยยาง อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่อื่น ๆ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงจะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยมีเพียง 3 หน่วยฯ ไม่มีการขึ้นปฏิบัติการคือ หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข็มที่ 2 และ หน่วยฯ จ.สงขลา และ หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเครื่องบินกองทัพอากาศตรวจซ่อมพิเศษประจำสัปดาห์ ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100