ศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่ ศึกษา วิจัย สาธิต ทดสอบ และพัฒนางานด้านการพัฒนาที่ดิน การอนุรักษ์ดินและน้ำ ปรับปรุงบำรุงดิน สร้างองค์ความรู้เพื่อการจัดการดิน ให้บริการกล้าหญ้าแฝก รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้านดิน และต่อยอดขยายผลองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเทคนิคการบ่มดิน ถือว่าเป็นเทคนิคใหม่ที่ทางศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวงได้นำมาทดลองในพื้นที่และเกิดผลสำเร็จ ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกพืช นางสาวกฤษณา ทิวาตรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เทคนิคการบ่มดินเป็นการปรุงดินอีกแบบหนึ่งที่ศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง ได้เทคนิคมาจากปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งก็มีการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น มูลวัว และขุยมะพร้าว การปรุงดินจะทำให้คุณสมบัติของดินนั้นดีขึ้นและเหมาะสมกับการเพาะปลูก เหมาะสมในการเจริญเติบโตของพืช ทั้งในด้านของโครงสร้างของดิน และการเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งขั้นตอนของการปรุงดินก็เริ่มต้นจากการเตรียมดินในพื้นที่ก่อน กรณีของการปรุงดินในแปลงเราก็จะมีการไถพรวนหน้าดินขึ้นมาแล้วก็นำมูลวัวมาโรยให้ทั่วแปลงซ้อนทับด้วยขุยมะพร้าวชั้นบน โดยอัตราส่วนการใช้มูลวัวต่อขุยมะพร้าว อัตรา 1:2 หลังจากนั้นก็จะรดน้ำให้ชุ่มอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสามครั้งเป็นเวลา 2 วัน เพื่อที่จะให้น้ำไหลซึมลึกจากขุยมะพร้าวลงไปที่มูลวัวแล้วก็ลงสู่ดินจากนั้นทิ้งไว้10-14วัน จะทำให้เม็ดดินแตกตัวและมีการทำงานของจุลินทรีย์ทำให้โครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงมีความร่วนซุยขึ้น ส่วนขุยมะพร้าวที่อยู่ด้านบนนั้นก็จะช่วยในเรื่องของการรักษาความชื้นในดินได้อีกด้วย ทางศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง ได้นำเทคนิคนี้มาทดลองใช้กับดินที่ได้มาจากการขุดสระน้ำ ซึ่งเป็นดินที่ค่อนข้างแข็ง เป็นก้อน มีกรวดและหินปน ในการปลูกทั้งไม้ผลและพืชไร่ ก็ปรากฏว่าสามารถปรุงดินได้ ทำให้ดินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน จากที่เป็นก้อนแข็ง ดินก็มีความนุ่ม ความร่วนซุย มีความชื้น มีสัตว์หน้าดินมาอาศัย ไม่ว่าจะเป็นไส้เดือนแล้วก็แมลงต่างๆ นอกจากการบ่มดินหรือการปรุงดินแล้ว ทางศูนย์ยังได้มีเทคนิคการปรุงปุ๋ยโดยใช้วัสดุอินทรีย์ที่สามารถหาได้ในพื้นที่ เช่น มูลสัตว์และวัสดุเหลือใช้ต่างๆโดยขั้นตอนการปรุงปุ๋ยก็จะนำปุ๋ยหมักมูลวัวที่ผ่านการหมักด้วยสารเร่ง พด.1 ผสมกับน้ำหมักชีวภาพที่ผ่านการหมักด้วยสารเร่ง พด.2 ในอัตราส่วน ปุ๋ยหมักมูลวัว 10 กิโลกรัม กับน้ำหมักชีวภาพ 1 ลิตร ที่เจือจางโดยนำไปผสมกับน้ำเปล่า 5 ลิตร จากนั้นรดลงบนปุ๋ยหมักมูลวัวให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็สามารถนำไปใช้ได้ น้ำหมักชีวภาพที่นำมาใช้ในการปรุงปุ๋ยนั้นเป็นน้ำหมักที่ผลิตโดยใช้วัสดุต่างกัน 2 สูตร คือสูตรที่ผลิตโดยใช้ปลาทะเลในการหมัก ซึ่งเหมาะสำหรับใช้กับพืชผักหรือไม้ผลในระยะบำรุงต้น และสูตรที่ผลิตโดยใช้ผลไม้ที่มีรสหวานในการหมัก เหมาะสำหรับใช้กับไม้ผลในระยะเร่งผล นับว่าเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถหาวัสดุที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้ได้อีกด้วย ศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง ได้มีการนำเทคนิคการปรุงดินไปทดลองใช้กับพืชหลากหลายชนิด มีทั้ง ข้าวโพด ไม้ผล มังคุด เงาะ ทุเรียน และมะพร้าว ที่มีการปรุงดินเฉพาะหลุมโดยมีขั้นตอนเหมือนกับการปรุงดินในแปลง ล้วนแต่เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี “หลังจากที่เรามีการปรุงดินและปรุงปุ๋ยร่วมกันนะคะ เราก็พบว่าการเจริญเติบโตที่เห็นได้ชัดก็คือแปลงข้าวโพด จะมีการเจริญเติบโตทางด้านลำต้นแล้วก็ผลผลิต ค่อนข้างที่จะดีนะคะ ก็คือได้ฝักหวานกรอบ แล้วก็ในส่วนของไม้ผลขณะนี้ก็อยู่ในช่วงที่ติดผลพอดี เช่น กล้วย ลำต้นค่อนข้างที่จะสมบูรณ์และแทงปลีเร็ว สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถมาขอองค์ความรู้ มาดูการสาธิตการปรุงดินภายในศูนย์หรือติดต่อมาที่เบอร์โทร 032-908227,Facebook ศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง ได้เลยค่ะ” ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดินชัยพัฒนา-แม่ฟ้าหลวง กล่าว