บางรายตกหล่นตั้งแต่ เม.ย. เหตุเพิ่งแจ้งผลชันสูตร และพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 312 ราย เป็นผู้ไม่เคยรับวัคซีนโควิด-19 รวม 147 ราย คิดเป็น 47% และรับเข็มที่ 1 เพียง 33 ราย คิดเป็น 8% ยังรอตรวจสอบอีก132 ราย คิดเป็น 42% สธ.ย้ำกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ อย่าลังเลในการเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงหากติดเชื้อ วันที่ 18 ส.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด19 ว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อวันนี้ 20,515 ราย เสียชีวิต 312 ราย ซึ่งกรณีตัวเลขเสียชีวิตนั้นจะมีการดูย้อนหลังโดยในจำนวน 312 รายไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิต 1-2 วัน แต่พบว่ามีประมาณ 100 ราย ในเกือบ 20 จังหวัด มีการรายงานล่าช้าเนื่องจากบางรายต้องรอผลชันสูตรทำให้รายงานเข้ามาช้า โดยมี 50 ราย พบข้อมูลวันที่เสียชีวิตก่อนเดือน ส.ค. บางรายย้อนหลังไปจนถึงเดือน เม.ย. และอีก 50 ราย เสียชีวิตช่วงต้นเดือน ส.ค. เนื่องจากบางรายไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แต่มีการเสียชีวิต จึงต้องชันสูตรหาสาเหตุ ซึ่งก็เจอว่าติดเชื้อโควิด-19 ซี่งแปลว่า หากไม่รวมจำนวนตกหล่น ยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 212 ราย นอกจากนี้ยังพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 312 ราย เป็นผู้ไม่เคยรับวัคซีนโควิด-19 รวม 147 ราย คิดเป็น 47% ซึ่งมี 1 ราย เป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เวรเปล รพ.แม่สอด โดยมีโรคประจำตัวที่เป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ได้รับวัคซีนแล้วเพียงเข็มที่ 1 มี 33 ราย คิดเป็น 8% ซึ่งปกติการหวังประสิทธิภาพ ประสิทธิผลจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องฉีดครบสูตรตามกำหนดและนับหลังจากเข็มที่ 2 ครบแล้วไปอีก 14 วัน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ และอีก 132 ราย คิดเป็น 42% อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเมื่อตัดกลุ่มที่รอการตรวจสอบ จะพบว่าทั้งหมดที่เสียชีวิตเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนนั่นเอง จึงจำเป็นต้องย้ำโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ อย่าลังเลในการเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะในทางวิชาการแล้ววัคซีนมีความปลอดภัย มีประสิทธิผลสูง ทำให้เราปลอดภัยจากโควิดไปด้วยกันนั่นเอง