นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันข้าวไร่ดอกข่า” จัดโดยสหกรณ์กองทุนสวนยาง บ้านบางทอง จำกัด ซึ่งมีนายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพังงา หน่วยงานภาคเอกชน สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมงาน ณ แปลงข้าวไร่ดอกข่าของสมาชิกสหกรณ์ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเสวนาทิศทางการส่งเสริมและการพัฒนาข้าวไร่ดอกข่า โดยมีผู้แทนจากศูนย์วิจัยข้าวกระบี่ เกษตรอำเภอท้ายเหมือง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงา การยางแห่งประเทศไทย และสภาเกษตรกรจังหวัดพังงา เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ มีกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าว การสาธิตการสีข้าวแบบโบราณ การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
ข้าวไรดอกข่า เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองคุณภาพดี มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา ลักษณะเด่น คือ มีความต้านทานต่อโรค เมล็ดยาว สีของเมล็ดข้าวสารมีสีน้ำตาลแดงอมม่วง เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นใบเตย รสชาติอร่อย พื้นที่ปลูกในแต่ละปีจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่โค่นยางพาราเป็นหลัก ส่วนใหญ่อยู่ในตำบล บางทอง อำเภอท้ายเหมือง และตำบลตากแดด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เกษตรกรจะทำแบบอนุรักษ์ ใช้วิธีลงแขกเกี่ยวข้าว ไม่มีการบุกเบิกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกข้าวไร่ โดยเริ่มปลูกประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และเก็บเกี่ยวปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 500 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 920 ตัน โดยสามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้ตันละ 30,000 – 33,000 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 27.6 ล้านบาท
นายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงา มีแผนผลักดัน และพัฒนาการผลิตข้าวไร่ดอกข่าทั้งระบบร่วมกับสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางทอง จำกัด เพื่อยกระดับสินค้า มุ่งให้สมาชิกมีความกินดีอยู่ดี พัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งอยู่คู่กับสังคมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเสวนาทิศทางการส่งเสริมและการพัฒนาข้าวไร่ดอกข่า โดยมีผู้แทนจากศูนย์วิจัยข้าวกระบี่ เกษตรอำเภอท้ายเหมือง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงา การยางแห่งประเทศไทย และสภาเกษตรกรจังหวัดพังงา เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ มีกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าว การสาธิตการสีข้าวแบบโบราณ การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
ข้าวไรดอกข่า เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองคุณภาพดี มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา ลักษณะเด่น คือ มีความต้านทานต่อโรค เมล็ดยาว สีของเมล็ดข้าวสารมีสีน้ำตาลแดงอมม่วง เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นใบเตย รสชาติอร่อย พื้นที่ปลูกในแต่ละปีจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่โค่นยางพาราเป็นหลัก ส่วนใหญ่อยู่ในตำบล บางทอง อำเภอท้ายเหมือง และตำบลตากแดด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เกษตรกรจะทำแบบอนุรักษ์ ใช้วิธีลงแขกเกี่ยวข้าว ไม่มีการบุกเบิกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกข้าวไร่ โดยเริ่มปลูกประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และเก็บเกี่ยวปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 500 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 920 ตัน โดยสามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้ตันละ 30,000 – 33,000 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 27.6 ล้านบาท
นายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงา มีแผนผลักดัน และพัฒนาการผลิตข้าวไร่ดอกข่าทั้งระบบร่วมกับสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางทอง จำกัด เพื่อยกระดับสินค้า มุ่งให้สมาชิกมีความกินดีอยู่ดี พัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งอยู่คู่กับสังคมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน