เมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง นัดหมายคาร์ปาร์ค พร้อมกับนัดมวลชน 3 จุด เพื่อเคลื่อนขบวนชุมนุมในรูปแบบของรถส่วนตัวหรือคาร์ม็อบไปตามจุดต่างๆ ใน กทม. กำหนดเวลาทำกิจกรรม เวลา 15.00-18.00น. ซึ่งหนึ่งในจุดที่น่าสนใจ บริเวณแยกราชประสงค์ ที่นายณัฐวุฒิ จะมาเป็นแกนนำ มีมวลชนเดินทางมาโดยรถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนตัว ตั้งแต่ก่อนเวลาเคลื่อนขบวน และเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลา 14.30 น.
ทั้งนี้ที่บริเวณถนนด้านหน้าห้างเซ็นทรัลเวิล์ด รถยนต์ส่วนใหญ่ที่มา ได้ผูกแถบผ้าสีแดงบริเวณกระจกด้านหน้า รถหลายคันติดสติ๊กเกอร์ แผ่นป้ายถ้อยคำต่างๆ ที่แสดงออกถึงการ ขับไล่ประยุทธ์ ให้พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่บริเวณด้านข้างถนนมีกลุ่มเสื้อแดง มีการแสดงดนตรีเล็กๆ มวลชนต่างร้องเพลง เต้นรำอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในจุดดังกล่าว ได้นัดหมายเคลื่อนขบวนเวลา 15.00น.มีการตั้งขบวนที่แยกราชประสงค์ ไปยังสวนลุมพินี ไปบ่อนไก่ ถนนพระราม4 ก่อนจะวกกลับมาจัดกิจกรรมบีบแตรตามความยาวเพลงชาติเพื่อไล่พล.อ.ประยุทธ์ ที่แยกราชประสงค์ในเวลา 18.00 น.
ทั้งนี้ที่บริเวณถนนด้านหน้าห้างเซนทรัลเวิล์ด รถยนต์ส่วนใหญ่ที่มา ได้ผูกแถบผ้าสีแดงบริเวณกระจกด้านหน้า รถหลายคันติดสติ๊กเกอร์ แผ่นป้ายถ้อยคำต่างๆ ที่แสดงออกถึงการ ขับไล่ประยุทธ์ ให้พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่บริเวณด้านข้างถนนมีกลุ่มเสื้อแดง มีการแสดงดนตรีเล็กๆ มวลชนต่างร้องเพลง เต้นรำอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กระทั่งเวลา 15.00 น.ขบวนได้เคลื่อนมุ่งหน้าแยกราชดำริ
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กิจกรรมคาร์ม็อบ ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “อนุสาวรีย์ชัยฯ-ฝั่งธน” ที่นำโดยกลุ่มทะฟ้า และกลุ่มฟันเฟืองอาชีวะปกป้องประชาธิปไตย ได้เริ่มมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เริ่มเข้ามาจอดตั้งขบวนฝั่งหน้าร้านแมคโดนัลด์ ต่อมาเวลา 14.30 น.ขบวนคาร์ม็อบได้ทำการปิดถนน ตั้งขบวนที่แยกคอกวัว โดยจะมุ่งหน้าไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า การจัดขบวนเป็นรถ จยย.นำหน้า ต่อด้วยขบวนรถยนต์ ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตไปโดยปริยาย
กระทั่งเวลา 15.00 น.ขบวนคาร์ม็อบได้เริ่มเคลื่อนขบวน ได้มีการบีบแตร ชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เอารัฐบาลและให้ลาออกทั้งองคาพยพอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรถยนต์แต่ละคันได้ปิดข้อความด่าทอรัฐบาล นายกฯรวมถึงรัฐมนตรีหลายคน ขณะเดียวกันแกนนำบนรถขยายได้สลับกันขึ้นปราศัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการเข้าถึงวัคซีนที่ยังเป็นปัญหาทำให้ประชาชนต้องเสียชีวิตแล้มล้มป่วยจากการติดเชื้อ ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจทำให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน และปราสัยการโจมตีที่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์เพื่อความอยู่รอด โดยเส้นทางที่ขบวนคาร์ม็อบจะเคลื่อนไปตามถนนพระปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนีสายใต้เก่า แยกบางพลัด ถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานพระราม 7 ย้อนกลับมาตามถนนจรัญสินทวงศ์มาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกครั้ง
ทั้งนี้ที่บริเวณถนนด้านหน้าห้างเซนทรัลเวิล์ด รถยนต์ส่วนใหญ่ที่มา ได้ผูกแถบผ้าสีแดงบริเวณกระจกด้านหน้า รถหลายคันติดสติ๊กเกอร์ แผ่นป้ายถ้อยคำต่างๆ ที่แสดงออกถึงการ ขับไล่ประยุทธ์ ให้พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่บริเวณด้านข้างถนนมีกลุ่มเสื้อแดง มีการแสดงดนตรีเล็กๆ มวลชนต่างร้องเพลง เต้นรำอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กระทั่งเวลา 15.00 น.ขบวนได้เคลื่อนมุ่งหน้าแยกราชดำริ
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กิจกรรมคาร์ม็อบ ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “อนุสาวรีย์ชัยฯ-ฝั่งธน” ที่นำโดยกลุ่มทะฟ้า และกลุ่มฟันเฟืองอาชีวะปกป้องประชาธิปไตย ได้เริ่มมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เริ่มเข้ามาจอดตั้งขบวนฝั่งหน้าร้านแมคโดนัลด์ ต่อมาเวลา 14.30 น.ขบวนคาร์ม็อบได้ทำการปิดถนน ตั้งขบวนที่แยกคอกวัว โดยจะมุ่งหน้าไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า การจัดขบวนเป็นรถ จยย.นำหน้า ต่อด้วยขบวนรถยนต์ ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตไปโดยปริยาย
กระทั่งเวลา 15.00 น.ขบวนคาร์ม็อบได้เริ่มเคลื่อนขบวน ได้มีการบีบแตร ชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เอารัฐบาลและให้ลาออกทั้งองคาพยพอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรถยนต์แต่ละคันได้ปิดข้อความด่าทอรัฐบาล นายกฯรวมถึงรัฐมนตรีหลายคน ขณะเดียวกันแกนนำบนรถขยายได้สลับกันขึ้นปราศัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการเข้าถึงวัคซีนที่ยังเป็นปัญหาทำให้ประชาชนต้องเสียชีวิตแล้มล้มป่วยจากการติดเชื้อ ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจทำให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน และปราสัยการโจมตีที่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์เพื่อความอยู่รอด โดยเส้นทางที่ขบวนคาร์ม็อบจะเคลื่อนไปตามถนนพระปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนีสายใต้เก่า แยกบางพลัด ถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานพระราม 7 ย้อนกลับมาตามถนนจรัญสินทวงศ์มาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกครั้ง