เพราะ "ฟัน" เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่สามารถบ่งบอกช่วงวัยได้ ดังนั้นการดูแลรักษาสุขอนามัยของช่องปากและฟันที่ดี ถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดีราวกับถูกสตัฟฟ์ให้ดูอ่อนเยาว์ไปตลอดชีวิต
รองศาสตราจารย์ ทพญ.อารยา พงษ์หาญยุทธ รักษาการคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า "การที่คนเราจะมีฟันที่ดีได้ ต้องเริ่มต้นดูแลรักษาฟันตั้งแต่วัยเด็ก สำคัญคือ ฟันยังช่วยในเรื่องสัดส่วนและความอูมของใบหน้าให้สวยงามขึ้น สังเกตว่าคนแก่ถ้าไม่มีฟัน บริเวณริมฝีปากจะผลุบเข้าไปด้านในส่งผลให้กรอบของใบหน้าหน้าสั้นลง ดังนั้นการมีฟันจะช่วยรักษาสัดส่วนของปาก และรักษากรอบของใบหน้า ฟันจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความมั่นใจบนใบหน้ากับคน ๆ หนึ่งเลยทีเดียว"
รองศาสตราจารย์ ทพญ.อารยา กล่าวอีกว่า นอกจากที่ทุกคนทราบดีคือการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งแล้ว ยังต้องแปรงฟันให้สะอาดอย่างทั่วถึง และควรต้องใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย ในกรณีที่มีฟันซ้อน ฟันเก อีกปัจจัยที่จะช่วยให้สุขภาพฟันดีมากยิ่งขึ้น คือ ควรลดแป้งและน้ำตาลในมื้ออาหารว่าง โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของเนื้อฟัน เช่น ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในยาสีฟัน และราคาไม่แพง รวมทั้งควรพบ ทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำ และต้องปฎิบัติให้เป็นนิสัย เพราะสุขภาพของช่องปาก ก็สะท้อนถึงสุขภาพของเราด้วยเช่นกัน
อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะกับช่องปาก เลือกขนแปรงที่มีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป และไม่ควรแปรงฟันแรงมาก แต่ควรขยับขนแปรงเป็นช่วงสั้นๆ เท่านั้น และแปรงให้ทั่วทุกด้าน โดยใช้เวลาในการแปรงฟันทั้งบนและล่าง ประมาณ 2 นาที เมื่อแปรงสีฟันเสร็จเรียบร้อยแล้วให้บ้วนปากด้วยน้ำเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ความเข้มข้นของฟลูออไรด์ยังคงอยู่บนฟันให้มากที่สุด รวมทั้งต้องผึ่งแปรงสีฟันให้แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่ของเชื้อโรค หรือแบคทีเรียต่างๆ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ อย่างน้อยทุก 1 เดือน เนื่องจากขนแปรงเมื่อใช้งานนานๆ ก็สามารถเสื่อมสภาพได้
