วันที่ 8 ส.ค.64 นายชาญยุทธ์ ชื่นตา ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอุบลราชธานี เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ตนได้ ร่วมกับ นายโกวิทย์ รักสิน นายก อบต.กุดเมืองฮาม พร้อมด้วย นางรจนา ทองทิพย์ ปลัด อบต.กุดเมืองฮาม นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ อบต.กุดเมืองฮาม ผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ไปที่บริเวณป่าชุมชน บ้านกุดเมืองฮาม หมู่ที่ 5 ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรม “จภ.7 ปลูกต้นไม้ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2564” “กรมเจ้าท่า พาปลูกป่า รักษาลำน้ำ” ภายใต้โครงการ จภ.7 ร่วมพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างสิ่งแวดล้อม พร้อมใจปลูกต้นไม้ 7 เดือน 7,777 ต้นเนื่องในโอกาสวันสำคัญของประเทศไทย จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ของทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด นายชาญยุทธ์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม โดยกรมเจ้าท่า ได้มีนโยบาย ให้สำนักงานเจ้าท่า ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จัดกิจกรรมปลูกป่าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ โดยการปลูกไม้เศรษฐกิจ ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอุบลราชธานี ได้นำพันธุ์ไม้ อาทิ ไม้พะยูง ไม้ประดู่ ไม้ยางนา ไม้มะค่า เป็นต้น จำนวน 1,200 ต้น มาปลูกบนพื้นที่ จำนวน 8 ไร่ ที่ชุมชนอำเภอยางชุมน้อยเพื่อให้ประชาชนรุ่นหลังได้เห็นความสำคัญของการปลูกป่า ซึ่งพันธุ์พืชต่างๆนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ ช่วยสนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง อยากให้ทางท้องถิ่น และชุมชน ช่วยดูแลพันธุ์ไม้เหล่านี้ให้เติบใหญ่เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป เพื่อสนองตอบโครงการป่ารักน้ำ พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2542 “อยากให้มีน้ำ ต้องไม่ตัดป่า”โครงการป่ารักน้ำ มีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรม ให้เป็นบริเวณต้นน้ำลำธารกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เดิมเอาไว้ให้ได้ ในเวลาเดียวกันก็ปลูกเสริมขึ้น เพื่อให้มีป่าไม้ช่วยในการควบคุม ความปรวนแปรของดินฟ้าอากาศ และภัยแล้ง เพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังให้ราษฎรเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นมีไม้ไว้ใช้สอย และเพิ่มพูนรายได้ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ยากจนขาดแคลนที่ดินทำกินและบุกรุกกระจัดกระจายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้มีที่อยู่ เป็นหลักแหล่งมีอาชีพแน่นอน เพื่อจะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อไป