การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารของแต่ละเหล่าทัพ ไม่ลงตัวง่ายๆ จนทำให้การส่งบัญชีรายชื่อ ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่กำหนดไว้เมื่อ 9 สิงหาคม ต้องเลื่อนออกไป
“บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งพบปะกับทั้ง “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ., “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. และ “บิ๊กแอร์” พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ในการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร (ผบท.) และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เมื่อ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการหารือการแต่งตั้งโยกย้ายทหารและกำหนดให้ส่งบัญชีรายชื่อ วันที่ 16 สิงหาคม เลย เนื่องจากแต่ละเหล่าทัพยังคงมีปัญหา
โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพบกที่จะต้องรอการคัดเลือกนายทหารจากกองทัพบก เพื่อไปทำหน้าที่ในหน่วยในพระองค์ ช่วง 9-12 ส.ค. ก่อน ส่วน กองทัพเรือนั้น “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. ได้จัดโผเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่ง
ขณะที่ กองทัพอากาศนั้น พล.อ.อ.แอร์บูล มีการแก้ไขโผรายชื่อใหม่ จนเป็นที่มาของกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.อ.แอร์บูล จะเสนอชื่อ “บิ๊กป้อง” พล.อ.อ. นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษากองทัพอากาศขึ้นเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่
จากเดิมที่มีข่าวมาตลอดว่าจะเสนอชื่อ “บิ๊กตั้ว” พล.อ.อ. สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการควบคุมทางอากาศ (ผบ.คปอ.) เพื่อนรักเตรียมทหาร 21 ขึ้นเป็นผบ.ทอ. แทน
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีข่าวสะพัดในกองทัพอากาศ ถึงโผโยกย้าย ฉบับบิ๊กตั้ว ออกมาแล้ว คือ พล.อ.อ. สฤษฏ์พงศ์ เป็น ผบ.ทอ.พล.อ.อ.ธาดา เคี่ยมทองคำ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทอ. เป็นรองผบ.ทอ. “เสธ.หนึ่ง” พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสนาธิการทหารอากาศ แคนดิเดท ผบ.ทอ. แต่เพราะ ตท.23 และเกษียณ2567 จึงให้รอ และวนขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ทอ. เท่านั้น ไม่ได้ให้เป็น รอง ผบ.ทอ. เพราะจะได้เปรียบคนอื่นในปีหน้า
และให้ “บิ๊กเบิร์ท” พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทอ. น้องรัก พล.อ.อ.แอร์บูล แต่ไม่ใช่น้องรัก บิ๊กตั้ว ขึ้น เป็น ผช.ผบ.ทอ. และมีการดึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองเสนาธิการทหาร กลับมาจากบก.กองทัพไทย มาเป็น เสนาธิการทหารอากาศ และถือว่าได้กลับมาเข้าไลน์ พร้อมที่จะชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ.ในปีหน้า ด้วยอีกคน
แต่เป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.อ.แอร์บูล นั้น เล็งวางตัว พล.อ.ท.อนันตชัย ไว้เป็นทายาท ในการเป็น ผบ.ทอ. ในอนาคต เพราะเมื่อ โยกย้ายเมษายนที่ผ่านมา เป็นคนที่ ถูกผลักดันขึ้นมา เป็น เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทอ. แทน พล.อ.ท. นพดล เพราเพริศภิรมย์ ที่พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีตผบ.ทอ. แต่งตั้งไว้ จนกลายเป็นอีกความขัดแย้งของ พล.อ.อ.แอร์บูล กับ พล.อ.อ.มานัต พล.อ.ท.อนันตชัย เป็น เตรียมทหาร 22 และเป็นนักบิน C130 ที่สนิทสนมกับ พล.อ.อ.แอร์บูล และดูแลสายงานส่งกำลังบำรุง การจัดซื้อจัดหาต่างๆ โดยเฉพาะ การรื้อ โปรเจกต์ของ พล.อ.อ.มานัต ที่ยิ่งเติมไฟ ใส่ความขัดแย้ง
แต่เป็นที่ร่ำลือกันในกองทัพอากาศว่า พล.อ.อ.แอร์บูล ต้องการให้ พล.อ.ท.อนันตชัย เป็น เสธ.ทอ. เพื่อควบคุมงานที่เป็นหัวใจสำคัญ และ โครงการสำคัญ ต่างๆ เพื่อความต่อเนื่อง แต่ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ มีปัญหาคาใจกับ พล.อ.ท.อนันตชัย มายาวนาน ส่งผลให้ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ ไม่อยากได้ พล.อ.ท.อนันตชัย มาเป็น เสธ.ทอ.
ความเห็นที่ไม่ตรงกันจึงทำให้เกิดกระแสข่าว พล.อ.อ.แอร์บูล เปลี่ยนใจ เสนอชื่อ พล.อ.อ.นภาเดช เพื่อนตท.21 อีกคน ที่เป็นแคนดิเดตอยู่แล้วขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ และมีชื่อ พล.อ.ท.อนันตชัย เป็นเสนาธิการทหารอากาศ
ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในการทำงาน เพราะ พล.อ.อ.นภาเดช ไม่มีปัญหากับ พล.อ.ท.อนันตชัย และคนอื่นๆ เมื่อเทียบกับ พล.อ.อ. สฤษฎ์พงศ์ นี่จึงกลายเป็นที่มาของกระแสข่าว พล.อ.อ.นภาเดช มาแรงแซงโค้ง
แต่ทว่าก็ยังไม่ใช่ โค้งสุดท้าย ของการโยกย้ายทหาร เพราะโค้งสุดท้าย คือเมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมนัดประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม หรือที่เรียกกันว่า บอร์ด7 เสือกลาโหม ที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังวันที่ 16 สิงหาคม
เนื่องจากเป็นวันที่ทางกลาโหมนัดให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายมาที่กระทรวงกลาโหมในวันที่ 16 สิงหาคม จากนั้นจะมีการนัดหมายวันว่างของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อที่จะประชุมบอร์ด7 เสือกลาโหมเพื่อสรุปทุกตำแหน่งให้ลงตัว
ที่เชื่อกันว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้น ในทอ. ระหว่าง พล.อ.อ.แอร์บูล กับ พล.อ.อ.มานัต และลามขยายวง จนมีการดึงฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการแฉ และตรวจสอบโครงการต่างๆของกองทัพอากาศ และความไม่ลงตัว จะกลายเป็นช่องว่างและช่องโหว่ให้พล.อ.ประยุทธ์ แทรกเข้ามาแก้ปัญหา หรือที่เรียกว่ามีเหตุผลในการที่จะล้วงลูก
จึงทำให้ชื่อของ “บิ๊กต่วย” พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังคงถูกจับตามองในโค้งสุดท้ายว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเลือกให้เป็นตาอยู่ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ หรือไม่ เพราะ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ เป็น เพื่อนเตรียมทหาร 21 ของทั้ง พล.อ.อ. สฤษฏ์พงศ์ พล.อ.อ.นภาเดช และ พล.อ.อ.แอร์บูล
และมีข่าวมาตลอด ตั้งแต่โยกย้ายปีที่แล้ว ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชอบ การทำงาน ของ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ มาตั้งแต่ เป็น เสธ.ทอ. ก่อนถูก พล.อ.อ.มานัต เตะโด่ง ย้ายข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด
ในเวลานั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เสนอชื่อพล.อ.อ.สุทธิพันธ์ แต่ทว่า พล.อ.อ.มานัต ยืนกราน ที่จะเสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล เป็น ผบ.ทอ. ไม่แค่นั้นยังมีกระแสข่าวถึงความสัมพันธ์ของ ครอบครัว พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ที่รู้จักมักคุ้นกันด้วย
แต่ทางทำเนียบรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เคยชี้แจงหรือแก้ข่าวในประเด็นเหล่านี้
แต่ในเมื่อ ต่อมา พล.อ.อ.มานัต กับ พล.อ.อ.แอร์บูล เกิดความขัดแย้งกันเอง และทำให้ ตลอดเกือบปีที่ผ่านมา ทอ. เกิด ปัญหาภายในก็อาจจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจใช้อำนาจในการล้วงลูก ครั้งนี้แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าพล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ ก็เป็นสายแข็งเพราะรู้กันดีว่าเป็นน้องรักของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ เป็นนายทหารที่คุ้นเคยกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพี่ใหญ่
อีกทั้งหากมองในแง่ของโปรไฟล์ประวัติการรับราชการเส้นทางรับราชการแล้ว พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ เสียเปรียบทั้งพล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ และ พล.อ.อ.นภาเดช ที่เป็นนักบินเอฟ เคยเป็นผู้บังคับฝูงบิน ผู้บังคับการกรม และเป็นผู้ช่วยทูตทหารในต่างประเทศ ตามธรรมเนียมของกองทัพอากาศ
แม้แต่ชื่อของ พล.อ.อ.ชานนท์ ก็ยังไม่ได้ถูกตัดออกไปจาก แคนดิเดตในมือของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีรายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้ดูประวัติ ของแคนดิเดตทั้งหมด เพื่อเปรียบเทียบ และเช็กข่าวภายในกองทัพอากาศเองด้วย
ดังนั้นจึงน่าจับตามองว่าหากพล.อ.อ.แอร์บูล ยืนยันชื่อที่เสนอขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ และพล.อ.อ.นภาเดช แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะล้วงลูกหรือไม่ หรือจะทะลุกลางปล้อง เลือก ตาอยู่ อย่าง พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ หรือ พล.อ.อ.ชานนท์ เลย เพราะในสถานการณ์แบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
อีกไม่นาน รู้ผล!!