เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงมาตรการควบคุมโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในระหว่างการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ ว่า โดยทั่วไปขณะนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงมากคือแม่บ้าน ทราบว่าล่าสุดมีแม่บ้านติดโควิด-19 จำนวน 3 คน ส่วนข้าราชการสภาฯ ยังอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ เราจะมีการตรวจเข้มขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมาได้มาการหารือว่าจะให้มีการตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับข้าราชการและสื่อมวลชนในวันที่ 16-17 ส.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมสภาฯ ส่วนรัฐมนตรี ส.ส. และผู้ติดตามที่ต้องเข้ามาภายในอาคารรัฐสภาในวันประชุมดังกล่าวก็มีการคุมเข้มเหมือนเดิม คือ จำกัดจำนวนผู้ติดตามได้เพียง 1 คน โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และอาจจะต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อนเข้ามาในอาคารัฐสภาเช่นกัน ทั้งนี้จะตรวจให้กับผู้ที่มีความประสงค์ต้องการตรวจ โดยไม่ได้มีการบังคับ แต่เห็นว่าทุกคนควรจะตรวจเพื่อความมั่นใจ ซึ่งทางสภาฯ ได้ประสานกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า กรอบเวลาในการอภิปรายงบประมาณในแต่ละวันจะจบลงเวลาใดเพราะติดเรื่องเคอร์ฟิว นายชวน กล่าวว่า ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะมีการหารือเรื่องนี้ โดยตนได้มอบหมายนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 รับทราบแล้ว เพราะเป็นประธานประชุมตัวแทนแต่ละฝ่าย ซึ่งจะหารือกันว่าจะเริ่มการประชุมในเวลา 09.30 น. ส่วนจะสิ้นสุดเวลาการประชุมเวลาใดนั้นจริงๆ แล้ว ศบค.อนุญาตให้สภาฯทำหน้าที่ได้ แต่เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ก็จะต้องหารือว่าควรจะเลิกประชุมในช่วงใด ซึ่งจะเห็นได้ว่าการพิจารณางบประมาณในแต่ละปีจะใช้เวลาเลย 24.00 น. เพื่อที่ในวันรุ่งขึ้นจะได้ประชุมต่อเลย โดยไม่ต้องนับองค์ประชุมใหม่ ดังนั้นต้องหารือกันว่าครั้งนี้จะพิจารณาหยุดพักได้ในช่วงเวลาใดของแต่ละวัน ส่วน 3 วันจะอภิปรายพอหรือไม่ ถ้าสมมุติเราพิจารณาเลิกประชุมในแต่ละวันเวลา 20.00-21.00 น. การพิจารณาอาจจะยืดเยื้อไปมากกว่า 3 วัน
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ว่า เบื้องต้นได้มีการนัดหมายว่าจะเดินทางมายื่นกับตนในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 09.30 น. และเมื่อรับญัตติมาแล้วตามขั้นตอนก็จะมีการตรวจสอบความถูกต้องเหมือนกับที่ผ่านมาทุกปี และไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่จะนัดประชุมเมื่อไหร่นั้นเมื่อตรวจสอบญัตติเรียบร้อยแล้วก็จะนัดหารือทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าเวลาและวันที่แต่ละฝ่ายสะดวกจะเป็นช่วงไหนต่อไป