เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล พ.ต.ท.ปิยะพล แป้นแก้ว พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโญ พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ พ.ต.ต.สรศักดิ์ สิทธิธีรกุล สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.พร้อมวุฒิ พร้อมพูล ร.ต.อ.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย ร.ต.อ.วุฒิพงศ์ ทองมาก รอง สว.กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัวนายอำพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหารที่ จ.18/2557 ลง 31 ม.ค.57 ความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ได้ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.57 พนักงานสวบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายขับขี่รถยนต์ไปทำการปล้นทรัพย์ภายในบ้านพักของนายสมคิดฯ นักสะสมพระที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องสร้อยคอทองคำ เครื่องประดับ มูลค่ากว่าล้านบาท นอกจากนี้ยังพบศพนายสมคิดฯ สภาพนอนหงาย มือถูกจับใส่กุญแจมือไว้ด้านหลัง มีร่องรอยถูกของแข็งมีคมทำร้ายที่บริเวณศีรษะ อยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายจนทราบพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในคดีนี้คนร้ายมีทั้งหมด 5 คน โดยก่อนเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายขับขี่รถยนต์มาจอดหน้าบ้านของผู้ตาย จากนั้นได้เข้าไปทำร้ายผู้ตายจับภรรยากับลูกของผู้ตายขังไว้ในห้องนอน ต่อมาผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจึงได้รุมทำร้ายจนเสียชีวิต ได้เอาทรัพย์สินเป็นพระเครื่อง สร้อยคอทองคำ และเครื่องประดับต่างๆ รวมมูลค่า 1,120,000 บาท หลบหนีไป
ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่านายอำพรฯ เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายรายอื่นได้ทั้งหมดแล้วยกเว้นนายอำพรฯ ที่ยังหลบหนีอยู่ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ตร. จึงได้ขึ้นบัญชีนายอำพรฯ เป็นผู้ร้ายสำคัญในปฏิทิน ตร. ลำดับที่ 74 มีค่าหัวจำนวน 100,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอำพรฯ ได้หลบหนีคดีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ประกอบอาชีพเป็นคนสวนจึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนเพื่อติดตามจับกุม โดยสามารถจับกุมตัวนายอำพรฯ ได้ในพื้นที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ส่วนประวัตินายอำพรฯ พบว่า เมื่อปี พ.ศ.2538 เคยต้องหาคดี ฆ่าผู้อื่นฯ เป็นมือปืนรับจ้างได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.จรัสฯ ตำรวจ สภ.แกลง จ.ระยอง ถึงแก่ความตาย ถูกจับกุมได้ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตแต่นายอำพร รับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตแต่จำคุกจริง 17 ปี 6 เดือน พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 กระทั่งมาก่อคดีนี้เมื่อต้นปี 2557
สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า หลังจากตนออกจากคุกมาตนไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต่อมามีคนรู้จักชวนให้มาร่วมก่อเหตุ ตนจึงได้มาร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้วปล้นทรัพย์ของผู้ตายในบ้านที่เกิดเหตุ แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืน จึงได้ร่วมกันจับผู้ตายมัดไว้รุมทำร้ายจนถึงแก่ความตาย จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันรื้อค้นหาทรัพย์สินในบ้านหลบหนีไป โดยทรัพย์สินที่ได้มาไม่ได้นำมารวมกันแล้วแบ่งแต่อย่างใด ใครค้นเจออะไรก็ยึดเอาไว้เอง โดยนายอำพร ให้การว่า ทรัยพ์สินที่ตนได้มาตนนำไปขายได้เงินมา 10,000 บาท เท่านั้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.57 พนักงานสวบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายขับขี่รถยนต์ไปทำการปล้นทรัพย์ภายในบ้านพักของนายสมคิดฯ นักสะสมพระที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องสร้อยคอทองคำ เครื่องประดับ มูลค่ากว่าล้านบาท นอกจากนี้ยังพบศพนายสมคิดฯ สภาพนอนหงาย มือถูกจับใส่กุญแจมือไว้ด้านหลัง มีร่องรอยถูกของแข็งมีคมทำร้ายที่บริเวณศีรษะ อยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายจนทราบพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในคดีนี้คนร้ายมีทั้งหมด 5 คน โดยก่อนเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายขับขี่รถยนต์มาจอดหน้าบ้านของผู้ตาย จากนั้นได้เข้าไปทำร้ายผู้ตายจับภรรยากับลูกของผู้ตายขังไว้ในห้องนอน ต่อมาผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจึงได้รุมทำร้ายจนเสียชีวิต ได้เอาทรัพย์สินเป็นพระเครื่อง สร้อยคอทองคำ และเครื่องประดับต่างๆ รวมมูลค่า 1,120,000 บาท หลบหนีไป
ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่านายอำพรฯ เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายรายอื่นได้ทั้งหมดแล้วยกเว้นนายอำพรฯ ที่ยังหลบหนีอยู่ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ตร. จึงได้ขึ้นบัญชีนายอำพรฯ เป็นผู้ร้ายสำคัญในปฏิทิน ตร. ลำดับที่ 74 มีค่าหัวจำนวน 100,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอำพรฯ ได้หลบหนีคดีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ประกอบอาชีพเป็นคนสวนจึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนเพื่อติดตามจับกุม โดยสามารถจับกุมตัวนายอำพรฯ ได้ในพื้นที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ส่วนประวัตินายอำพรฯ พบว่า เมื่อปี พ.ศ.2538 เคยต้องหาคดี ฆ่าผู้อื่นฯ เป็นมือปืนรับจ้างได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.จรัสฯ ตำรวจ สภ.แกลง จ.ระยอง ถึงแก่ความตาย ถูกจับกุมได้ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตแต่นายอำพร รับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตแต่จำคุกจริง 17 ปี 6 เดือน พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 กระทั่งมาก่อคดีนี้เมื่อต้นปี 2557
สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า หลังจากตนออกจากคุกมาตนไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต่อมามีคนรู้จักชวนให้มาร่วมก่อเหตุ ตนจึงได้มาร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้วปล้นทรัพย์ของผู้ตายในบ้านที่เกิดเหตุ แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืน จึงได้ร่วมกันจับผู้ตายมัดไว้รุมทำร้ายจนถึงแก่ความตาย จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันรื้อค้นหาทรัพย์สินในบ้านหลบหนีไป โดยทรัพย์สินที่ได้มาไม่ได้นำมารวมกันแล้วแบ่งแต่อย่างใด ใครค้นเจออะไรก็ยึดเอาไว้เอง โดยนายอำพร ให้การว่า ทรัยพ์สินที่ตนได้มาตนนำไปขายได้เงินมา 10,000 บาท เท่านั้น