ฟาร์มไก่แปดริ้วยัน ยังขายไข่ในราคาคงเดิม ส่วนการปลดแม่ไก่ถือเป็นเรื่องปกติทางกลไกการผลิต ชี้ไก่ที่เหลืออยู่ยังไข่ได้ทุกวัน ด้านผู้บริโภคซื้อหน้าฟาร์มเผยพ่อค้าโก่งขายกันเองที่ปลายทาง แต่อาจมีปัจจัยอื่นเป็นองค์ประกอบร่วม ทั้งระบบการขนส่งที่ยากลำบากยิ่งขึ้นในช่วงล็อคดาวน์ ทั้งยังเกิดกระแสกักตุนของผู้บริโภคช่วงโควิด 19 ระบาด รวมถึงการระดมซื้อไข่ไก่ไปเก็บไว้ หรือนำเป็นของฝากและช่วยเหลือผู้ป่วยผู้ต้องกักตัวจากภาวะเสี่ยงสูง
วันที่ 11 ส.ค.64 เวลา 14.30 น. นางสุมาลี เรืองศรี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.1 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ “จั่นเจริญฟาร์ม” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่รายย่อยขนาดจำนวนแม่ไก่ 30,000 ตัวมานานกว่า 40-50 ปี นับจากรุ่นมารดา กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวผ่านทางสื่อมวลชนถึงเรื่องเกี่ยวกับราคาไข่ไก่ขยับราคาสูงขึ้น หรือมีราคาแพงเมื่อถูกส่งไปถึงยังปลายทาง ขายให้แก่ผู้บริโภคว่า
ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงขายกันในราคาปกติ ตามราคากลางที่มีการประกาศให้ขายกันทุกราย ทั้งฟาร์มขนาดใหญ่และฟาร์มขนาดเล็ก โดยราคาขายปลีกยังอยู่ที่ ไข่ไก่ขนาดจัมโบ้ราคาถาดละ (30 ฟอง) 125 บาท ไข่ไก่เบอร์ 0 ราคา 115 บาท เบอร์ 1 ราคา 110 บาท เบอร์ 2 ราคา 105 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมที่ได้เคยขยับขึ้นมาก่อนหน้านานแล้วถาดละ 10 สตางค์ เมื่อกว่า 1 เดือนก่อน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและมีการปลดแม่พันธุ์ไก่
แต่ถือเป็นปัจจัยระยะสั้น ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มมากนัก เนื่องจากแม่ไก่ที่ยังเหลืออยู่ก็ยังคงออกไข่มาให้ขายได้ทุกวัน สำหรับฟาร์มของตนนั้นมีการปลดแม่ไก่ไปเพียง 1 เล้าเท่านั้น จึงไม่มีผลกระทบอะไรต่อปริมาณผลผลิตมากนัก แต่ราคาขายไข่ไก่ที่มีการขยับขึ้นราคาในจังหวัดปลายทางอื่นๆ นั้น อาจจะมีผลกระทบมาจากการขนส่งที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้นในช่วงที่มีการประกาศล็อคดาวน์พื้นที่
ทั้งยังเกิดกระแสการกักตุนของผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ระบาด รวมถึงการระดมซื้อไข่ไก่ไปฝากให้แก่กัน โดยเฉพาะการนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในระยะกักตัว จึงทำให้ไข่ไก่ขาดแคลนในท้องตลอดจากการระดมพากันซื้อไปเก็บไว้และไปฝากผู้กักตัวดังกล่าว ประกอบกับการขนส่งที่ไม่สะดวกจึงทำให้ไข่ไก่ในจังหวัดปลายทางมีราคาสูงขึ้น ทั้งที่ราคาขายที่หน้าฟาร์มยังขายกันในราคาเดิม นางสุมาลี กล่าว
ด้าน นายกำพล พรเดชวงศ์ อายุ 48 ปี พักอาศัยอยู่ในย่านเขตพื้นที่คลองหลวงแพ่ง-ลาดกระบัง กทม. ซึ่งเดินทางผ่านเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประจำกล่าวว่า ราคาขายไข่ไก่ในกรุงเทพฯ มีราคาแพงกว่าที่ตนแวะซื้อที่หน้าฟาร์มเพื่อนำกลับไปบริโภค รวมถึงยังมีเพื่อนบ้านฝากซื้อถึงถาดละประมาณ 20 บาทในขณะนี้ ทั้งที่หน้าฟาร์มที่ตนเข้ามาแวะซื้อในวันนี้ยังคงขายในราคาเดิมตามปกติที่ได้เคยแวะเข้ามาซื้อ เป็นประจำ จึงเชื้อว่ามีการโก่งราคาขายกันของพ่อค้ามากกว่า นายกำพล กล่าว
ส่วนด้าน นางสำเภา (นามสมมุติ) อายุ 66 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.เทพราช ซึ่งเดินทางมาซื้อไข่ไก่ที่หน้าฟาร์มไปบริโภคอยู่เป็นประจำ กล่าวว่า ราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้ ยังไม่เห็นว่ามีการขยับราคาขายปลีกขึ้นแต่อย่างใด โดยยังเห็นว่ามีการนำออกมาวางขายกันในราคาเดิมตามที่ตนเคยซื้อนำไปบริโภคอยู่บ่อยครั้ง
จึงเชื่อว่าน่าจะมีการฉวยโอกาสขยับขึ้นราคากันที่พ่อค้าปลายทางมากกว่า เนื่องจากอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการขนส่ง และอยากวอนขอว่าอย่าได้ไปซ้ำเดิมกันเลย ท่ามกลางภาวะทางด้านเศรฐกิจที่ไม่ดีในช่วงเกิดโรคระบาด ขอให้เห็นอกเห็นใจกันมากกว่าที่จะมาซ้ำเติมกันในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ขณะที่คนไม่มีรายได้ไม่มีงานทำและบางคนยังตกงาน นางสำเภา กล่าว