ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดยโสธรมีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักและใช้อาวุธปืนยิงลูกชายอดีตภรรยาจนได้รับบาดเจ็บขณะจะเข้าไปช่วยเหลือแม่ช่วงกลางดึกก่อนหลบหนีไปนาน 3 เดือน ได้ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับโทษตามกฎหมาย พ.ต.ท.ไพโรจน์ ลิลากุด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้ทำการสอบสวน นายจันทร์ จำใบรัตน์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 8 ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหาฆ่าอดีตภรรยาของตนเองที่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง นางสาวสมัย ไชยมาตย์ อายุ 54 ปี อดีตภรรยาที่เลิกลากันไปจำนวนหลายแผลจนทำให้ นางสาวสมัยฯนอนเสียชีวิตเปลือยกายจมกองเลือดอยู่ในห้องนอนภายในบ้านพักของตัวเองที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 8 บ้านดอนกลอง ตำบลหนองเรือ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และยังได้ใช้อาวุธปืนยิง นายกิตติพงษ์ ขันดี อายุ 28 ปี ลูกชายอดีตภรรยาจนได้รับบาดเจ็บขณะกำลังจะเข้าไปช่วยแม่ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไป จนกระทั่งต่อมา ศาลจังหวัดยโสธร จึงได้ออกหมายจับ ที่ 39/ 2564 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ให้จับตัว นายจันทร์ จำใบรัตน์ ผู้ต้องหา ความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน,พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอายุความเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็พยายามสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาตามจุดต่างๆและตามพื้นที่ป่าในละแวกชุมชนของผู้ต้องหาที่มีชาวบ้านแจ้งว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวได้ จนล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 9 สิงหาคม 2564 นายจันทร์ จำใบรัตน์ ผู้ต้องหาจึงได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร พร้อมด้วยอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาดจุด 38 จำนวน 1 กระบอก และมีดปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุและให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เนื่องจากไม่พอใจและโกรธแค้นที่อดีตภรรยาผู้ตายได้นำเงินของตนกว่า 3 แสนบาท ไปใช้จ่ายจนหมดและยังพยายามขอแยกทางกับตนจนหนีไปอยู่กับลูกสาวที่จังหวัดนครราชสีมานานหลายเดือนแต่พอผู้ตายกลับมาที่บ้านพักตนจึงอาศัยช่วงกลางดึกทุบกระจกบานเกล็ดหน้าต่างห้องนอนของผู้ตายเข้าไปทวงความแค้นและใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวไปกระหน่ำแทงจำนวนหลายครั้งจนเสียชีวิตคาที่และในระหว่างนั้นลูกชายของผู้ตายได้ยินเสียงจึงพยายามจะเข้ามาช่วยเหลือตนจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวไปยิงสวนออกไป 1 นัด ถูกลูกชายได้รับบาดเจ็บก่อนจะหลบหนีไปทันที ซึ่งหลังจากนั้นตนก็หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ตามป่าและตามกระท่อมนาในพื้นที่ใกล้ๆกับหมู่บ้านขุดหัวมันกินประทังชีวิตไปวันๆและคอยหลบๆซ่อนๆเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกระทั่งเวลานาน 3 เดือน จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวเพื่อรับโทษตามกฎหมายต่อไป