เมื่อ​​วันที่ 11 ส.ค.นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีปริมาณและการกระจายตัวของฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ของภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีตัวแปรทางธรรมชาติคือร่องมรสุมและร่องฝนในขณะนี้ยังไม่มีพาดผ่านในประเทศไทย ทำให้ฝนที่ตก ในประเทศไทยในตอนนี้ ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย และหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่ในบริเวณพื้นที่สปป.ลาวตอนบนและเวียดนามตอนบน ซึ่งลักษณะสภาพอากาศของประเทศในตอนนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ทั้ง 13 หน่วย โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองทัพอากาศและกองทัพบก สนับสนุนอากาศยานและบุคลากร ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้รอดพ้นจากสภาวะฝนทิ้งช่วง ในช่วงฤดูฝนนี้ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะเร่งติดตามสภาพอากาศ หากสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงพร้อมช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที สำหรับผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.64) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.พะเยา ลำปาง สุโขทัย ชัยนาท นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เลย หนองบัวลำภู นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี สุรินทร์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช พัทลุง สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 2 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 6 แห่ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ​​นายปนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคกลาง เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยฯ ได้แก่ -หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.หนองบัวลำภู -หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีษะเกษ จ.อุบลราชธานี -หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ -หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา -หน่วยฯ จ.สระแก้ว ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ชลบุรี จ.สระแก้ว​ ​​ ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการ จำนวน 1 หน่วย ไม่มีการปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยฯ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสังเกตอาการหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 และอีก 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะยังคงติดตามสภาพอากาศต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100