ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ร้ายแรงที่มีผลกระทบในวงกว้างทุกมิติ ทำให้มีคนเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก โดยสธ.และทุกภาคส่วนร่วมสู้มากว่า 2 ปี แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในหลายเรื่อง และเพื่อลดความวิกตกกังวล และสร้างความมั่นใจในการทำงานแก่บุคลากรการแพทย์สาธารณสุข จึงเห็นด้วยที่จะให้รัฐออกมาตรการคุ้มครอง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป 11 ส.ค.2564 ที่กระทรวงวาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันออกแถลงการณ์ขอให้คุ้มครองผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โรคระบาดฉุกเฉิน โควิด-19 โดยระบุว่าผู้บริหาร สธ. และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ สภาวิชาชีพ อาทิ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม แพทยสภา สภาการพยาบาล ทันตแพทย์สภา สภาเทคนิคการแพทย์ ฯลฯ ได้เห็นพ้องว่าโรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ร้ายแรงที่มีผลกระทบในวงกว้างทุกมิติ ทำให้มีคนเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก บางครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบสาธารณสุขของไทยได้ต่อสู้กับโรคนี้มานานเกือบ 2 ปี ด้วยสรรพกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน จิตอาสา ประชาสังคม และประชาชน ด้วยสถานการณ์ทุกด้านมีความเร่งด่วน ต้องการความร่วมมือร่วมใจในการควบคุมป้องกันโรค และการรักษาพยาบาลในทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ การจัดหายา เวชภัณฑ์และวัคซีน ซึ่งการตัดสินใจและทำงานในภาวะเร่งด่วน มีข้อจำกัดด้านองค์ความรู้ และทรัพยากร อาจก่อให้เกิดความไม่สมบูรณ์ ผิดพลาดในการปฏิบัติงานโดยสุจริตใจ กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ จึงเสนอให้รัฐบาลหามาตรการปกป้อง คุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนนักวิชาการ เพื่อลดความวิกตกกังวล และสร้างความมั่นใจในการทำงานที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนต่อไป