ความรุนแรงและผลกระทบจากการระบาดของวิกฤติโควิด-19ในประเทศไทย ยังไม่มีสัญญาณว่าจะทุเลาลงได้ในระยะสั้น แม้นายกรัฐตรีประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 แต่สิ่งที่ปรากฎยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ติดเชื้อสะสม ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น หากโชคดีก็รักษาหาย แต่ถ้าโชคร้ายต้องจากครอบครัวไปก่อนเวลาอันควร โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ล่ำลา
สำหรับประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดที่ถูกยกระดับเป็นสีแดงเข้ม เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากมีผู้ป่วยรายใหม่และสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการระบาดระลอกใหม่สะสมเกือบ 6 พันราย
นายสิทธิชัย ใจสงบ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ หัวหน้าทีมประจวบต้องรอดไปด้วยกัน เจ้าพนักงานสาธารณสุข เวชกิจฉุกเฉิน โรงพยาบาลบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประธานชมรมเจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในจังหวัด สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้สะดวกมีเตียงเพียงพอ ไม่น่าห่วงเหมือนชาวประจวบฯ ที่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดและเจ็บป่วยติดเชื้อโควิด ทำให้กระทบไปถึงรายได้และอาชีพ ส่วนใหญ่ตกงาน ไม่มีเงิน แล้วยังมาป่วยซ้ำ เตียงเต็มไม่มีสถานที่รักษา และพบว่ามีบางพื้นที่เรียกเก็บเงินค่าเดินทางกับผู้ป่วยที่กำลังเดือดร้อน เหมือนเป็นการซ้ำเติม
“ ได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนอาสากู้ภัยที่ทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือประชาชนชาวประจวบฯ ที่ต้องการกลับบ้านมารักษาตัวที่บ้านเกิด จึงทำโครงการพาผู้ป่วยกลับบ้าน ในนาม ทีมประจวบต้องรอดไปด้วยกัน หลังจากปัจจุบัน 8 โรงพยาบาลในจังหวัด ได้เปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อเตรียมรับผู้ป่วยกลับมารักษา ทีมจึงพร้อมจะสนับสนุนโรงพยาบาลทุกอำเภอ โดยาเริ่มรับผู้ป่วยกลับมารักษาครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยรับผู้ป่วยจากหลายจังหวัด เช่น ชลบุรี อยุธยา นนทบุรี นครปฐม ใช้รถยนต์และอุปกรณ์ส่วนตัวของทีมงานทั้งหมด ขณะนี้มีรถยนต์ 1 คัน และอาสากู้ภัย อีก 3 ทีม หมุนเวียนวันหยุดจากงานประจำ ออกเคสช่วยเหลือผู้ป่วยกันเกือบทุกวัน”
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร มีผู้ใจบุญในพื้นที่ที่เคยเห็นการทำงานของตนและกลุ่มเพื่อนอาสากู้ภัย ได้ร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่าย และทีมงานไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆจากผู้ป่วย หลังจากไปรับผู้ป่วยจากต้นทาง กลับมารักษายังโรงพยาบาลปลายทาง
นายสิทธิชัย กล่าวว่า สิ่งสำคัญผู้ป่วยทุกคนที่ประสงค์จะเดินทางกลับมารักษาที่บ้านเกิด จะต้องมีผลการตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR และประสานโรงพยาบาลปลายทางยืนยันรับเข้ารักษาแล้ว และอาการของโรคยังไม่รุนแรง สามารถเดินเองได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายระหว่างเดินทาง เช่นกรณีผู้ป่วยหญิง อายุ 19 ปี พิการขาทั้งสองข้างไม่สามารถเดินเองได้ ได้ติดต่อขอกลับมารักษาตัวที่ศูนย์พักคอย องค์การบริหารส่วนตำบลชัยเกษม อ.บางสะพาน ทีมงานไม่ลังเลได้รีบเดินทางไปรับตัวมาจากจังหวัดชลบุรีทันที ขณะเดียวกันได้เห็นน้ำใจในยามทุกข์ยากของผู้ป่วยชายอีกคน ที่ช่วยเหลือซึ่งกันละกันในยามลำบาก ทำให้ทีมงานมีกำลังใจสู้เพื่อช่วยผู้ป่วยต่อไปเช่นกัน
หากติดเชื้อโควิด 19 มีอาการเป็นป่วยสีเขียว ต้องการลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด ติดต่อทีม “ประจวบต้องรอดไปด้วยกัน” หรือท่านใดที่ใจบุญ ต้องการร่วมสนับสนุนภารกิจทีมงาน ติดต่อได้ที่เบอร์ 086-798 3153 , 089-956 6053 #ประจวบต้องรอดไปด้วยกัน