บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จํากัด (มหาชน) หรือ PAP ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ประจำปี 2564 เติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 473 ล้านบาท หรือร้อยละ 876 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 257 ล้านบาท หรือร้อยละ 2,641 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
นางเอื้อมพร ปัญญาใส กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จํากัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายและบริการ 4,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,102 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29 กำไรสุทธิ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 473 ล้านบาท หรือร้อยละ 876 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ประจำปี 2564 ภาพรวมในการดำเนินธุรกิจยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องรักษาการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและบริการ 2,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 568 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32 ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญยังคงมาจากทิศทางราคาเหล็กโลก และราคาเหล็กในประเทศที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีแผนบริหารจัดการสินค้าคงเหลือ การลดต้นทุน และการจัดการภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมด้านแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอกใหม่ที่ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการปรับปรุงแผนการผลิตและขนส่งสินค้า เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าและบริการให้แก่คู่ค้า ลูกค้าได้ทันต่อความต้องการ ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆในการทำงาน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การบริหารจัดการต้นทุนและเตรียมพร้อมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสามารถให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ขณะเดียวกันได้เดินหน้ายกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของพนักงานขั้นสูงสุด มีการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่พนักงาน ตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้พนักงานทุกคนได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 100% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคม ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า รวมทั้งสร้างความปลอดภัยในระดับสูงสุดให้ทั้งพนักงานและคู่ค้า นอกจากนี้บริษัทฯ มีนโยบาย Work From Home เพื่อให้พนักงานลดความเสี่ยง รวมทั้งการตรวจเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอ พร้อมจัดทำสถานที่กักตัวหรือโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ (FAI) จัดเตรียมที่พักผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับพนักงานที่ป่วยให้เข้าถึงการรักษาที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจได้ว่าบริษัทสามารถดำเนินการส่งมอบสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้า ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพ และจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น