สมาคมประกันวินาศภัยรุกจับมือค่ายทรู คอปอเรชั่นจัดตั้งศูนย์ Telemedicine แล้ว พร้อมทั้งยังผุดAPPLICATION อำนวยความสะดวกลูกค้าซื้อประกันโควิด เข้ารักษาพยาบาลในระบบHome Isolation
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันวินาศภัยรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00-12.00 น.ของวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างบริษัทประกันวินาศภัย และผู้บริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการการจัดตั้งศูนย์ Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้รับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation และสอบถามถึงบริษัทประกันฯรายไหนที่สนใจจะเข้าร่วมกับโครงการนี้ โดยได้ขีดเส้นตายให้บริษัทที่สนใจแจ้งชื่อเข้ามายังสมาคมประกันวินาศภัยไทยภายในพุธที่ 11 สิงหาคม 2564 ก่อนที่โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการใช้ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประมาณ 200 คน
โดยโครงการนี้ทางนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้มอบหมายให้ทั้ง 3 หัวเรือใหญ่เป็นผู้ดูแลได้แก่ นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย ,นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชฐ์ เลขาธิการสมาคมฯ ในฐานะดูแลบมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ(ไทยรี)และผู้บริหารโครงการเคลมประกันสุขภาพ นายปิยะพัฒน์ วนอุกฤษฎ์ ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ เพื่อร่วมทำงานกับTRUE HEALTH ซึ่งจะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องระบบ Telemedicine เนื่องจากระบบทรูสามารถเชื่อมต่อกับสป.สช. ได้อยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งบริษัททรูฯจะทำหน้าที่เป็นเหมือนเกตเวย์ โดยจมีApplicationนำโดยบริษัททรู คอปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)สำหรับผู้เอาประกันที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือโควิด-19และได้รับการดูแลรักษาพยาบาลแบบHome Isolation ติดต่อปรึกษาหมอและเชื่อมไปยังสถานพยาบาลในการเข้าถึงบริการรักษาและจัดส่งยา
สำหรับโครงการนี้จะเป็น Step แรกที่จะนำมาใช้กับผู้เอาประกันที่ซื้อประกันโควิดไปก่อน กระทั่งดำเนินการไปได้สัก 2 อาทิตย์ จึงค่อยขยับนำระบบดำเนินการมาใช้ใน Step ที่สองสำหรับรองรับกับลูกค้าประกันสุขภาพทั่วไป เพราะคงจะเปิดดำเนินการในคราเดียวกันกับกลุ่มผู้เอาประกันที่ซื้อประกันโควิดที่คุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เนื่องจากประกันสุขภาพจะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปมากกว่า อาทิเช่นต้องมีการแยกระหว่างคนไข้นอก และคนไข้ใน จึงจำเป็นต้องแยกกันในการยริหารจัดการเคลมออกมาเป็น2step
สำหรับศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นดังกล่าวนี้ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมายแล้ว และสามารถจัดการเกี่ยวกับHOME ISOLATIONได้ ทำให้ผู้เอาประกันสามารถเข้าระบบการรักษาได้ทันทีและเพิ่มโอกาสในการจัดหาเตียงให้กับผู้เอาประกันภัยในราคาที่่เหมาะสม อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณงานเคลมหรือการเรียกร้องค่าสินไหมที่เข้าผ่านบริษัทประกันภัยโดยตรงและช่วยบรรเทาภาระปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นสูงในปัจจุบันอีกด้วย
“ศูนย์ Telemedicine ที่เปิดขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะ ช่องทางของบริษัทประกันในการติดต่อผู้เอาประกันมีข้อจำกัด แถมการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมีจำนวนมาก และมีความหลากหลายความคุ้มครอง (ทั้งกรมธรรม์ประกันสุขภาพ และกรมธรรม์ประกันโควิด) กระทบกับการบริหารจัดการมาก อีกทั้งไม่สามารถกำหนดค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆตามความคุ้มครองได้ ส่งผลให้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มสูงขึ้น และบุคลากรไม่เพียงพอต่อปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น และระบบสารสนเทศ ไม่สามารถพัฒนาได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้เอาประกันภัยก็มีช่องทางติดต่อกับบริษัทประกันมีจำกัด และได้รับการตอบกลับล่าช้า แถมการเข้าถึงระบบการรักษาลำบาก เพราะผู้ป่วยจำนวนสูงขึ้น จนเกินความสามารถของจนท.และสถานพยาบาล และกรณีเกิดเจ็บป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถประสานงานเพื่อเข้ารับการรักษาให้ทันท่วงที ทางสมาคมประกันฯเลยต้องตัดสินใจตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาช่วย”แหล่งข่าวรายนี้กล่าว
โดยโครงการนี้ทางนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้มอบหมายให้ทั้ง 3 หัวเรือใหญ่เป็นผู้ดูแลได้แก่ นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย ,นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชฐ์ เลขาธิการสมาคมฯ ในฐานะดูแลบมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ(ไทยรี)และผู้บริหารโครงการเคลมประกันสุขภาพ นายปิยะพัฒน์ วนอุกฤษฎ์ ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ เพื่อร่วมทำงานกับTRUE HEALTH ซึ่งจะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องระบบ Telemedicine เนื่องจากระบบทรูสามารถเชื่อมต่อกับสป.สช. ได้อยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งบริษัททรูฯจะทำหน้าที่เป็นเหมือนเกตเวย์ โดยจมีApplicationนำโดยบริษัททรู คอปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)สำหรับผู้เอาประกันที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือโควิด-19และได้รับการดูแลรักษาพยาบาลแบบHome Isolation ติดต่อปรึกษาหมอและเชื่อมไปยังสถานพยาบาลในการเข้าถึงบริการรักษาและจัดส่งยา
สำหรับโครงการนี้จะเป็น Step แรกที่จะนำมาใช้กับผู้เอาประกันที่ซื้อประกันโควิดไปก่อน กระทั่งดำเนินการไปได้สัก 2 อาทิตย์ จึงค่อยขยับนำระบบดำเนินการมาใช้ใน Step ที่สองสำหรับรองรับกับลูกค้าประกันสุขภาพทั่วไป เพราะคงจะเปิดดำเนินการในคราเดียวกันกับกลุ่มผู้เอาประกันที่ซื้อประกันโควิดที่คุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เนื่องจากประกันสุขภาพจะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปมากกว่า อาทิเช่นต้องมีการแยกระหว่างคนไข้นอก และคนไข้ใน จึงจำเป็นต้องแยกกันในการยริหารจัดการเคลมออกมาเป็น2step
สำหรับศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นดังกล่าวนี้ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมายแล้ว และสามารถจัดการเกี่ยวกับHOME ISOLATIONได้ ทำให้ผู้เอาประกันสามารถเข้าระบบการรักษาได้ทันทีและเพิ่มโอกาสในการจัดหาเตียงให้กับผู้เอาประกันภัยในราคาที่่เหมาะสม อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณงานเคลมหรือการเรียกร้องค่าสินไหมที่เข้าผ่านบริษัทประกันภัยโดยตรงและช่วยบรรเทาภาระปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นสูงในปัจจุบันอีกด้วย
“ศูนย์ Telemedicine ที่เปิดขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะ ช่องทางของบริษัทประกันในการติดต่อผู้เอาประกันมีข้อจำกัด แถมการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมีจำนวนมาก และมีความหลากหลายความคุ้มครอง (ทั้งกรมธรรม์ประกันสุขภาพ และกรมธรรม์ประกันโควิด) กระทบกับการบริหารจัดการมาก อีกทั้งไม่สามารถกำหนดค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆตามความคุ้มครองได้ ส่งผลให้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มสูงขึ้น และบุคลากรไม่เพียงพอต่อปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น และระบบสารสนเทศ ไม่สามารถพัฒนาได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้เอาประกันภัยก็มีช่องทางติดต่อกับบริษัทประกันมีจำกัด และได้รับการตอบกลับล่าช้า แถมการเข้าถึงระบบการรักษาลำบาก เพราะผู้ป่วยจำนวนสูงขึ้น จนเกินความสามารถของจนท.และสถานพยาบาล และกรณีเกิดเจ็บป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถประสานงานเพื่อเข้ารับการรักษาให้ทันท่วงที ทางสมาคมประกันฯเลยต้องตัดสินใจตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาช่วย”แหล่งข่าวรายนี้กล่าว