จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ไทยได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าไม่ครบนั้น
เพจ "หมอเวร" โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ...
หลายคนที่ช่วงนี้บ่นอุบว่าเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์หลายๆรพ.ได้วัคซีนไม่ครบ อันนี้ส่วนนึงเท่าที่ทราบมาจากหลายแหล่งข่าว ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นด้วยกัน
1.เขาว่ากันว่า มีการกั๊กไว้ให้ VIP อันนี้ก็ต้องไปตามสืบให้เจอ ว่ากั๊กจริงหรือไม่ ถ้าจริงสังคมก็จะตามประณามกันต่อไป
2.วัคซีนถูกกระจายไปในรพ.ที่มีความจำเป็นน้อยกว่ารพ.ด่านหน้า ซึ่งอันนั้นต้องรอความกระจ่างกันต่อไปเช่นกัน
แต่อีกประเด็นนึงที่จะไม่พูดก็คงไม่ได้ คือวัคซีนไฟเซอร์ที่ถูกทยอยส่งให้กับรพ.จำนวนไม่ครบเนี่ย อันนี้มันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรักษาวัคซีนด้วยนะ หลักๆตามที่เรามีข้อมูลและศึกษากันมาแล้ว แยกการจัดเก็บได้ 3 แบบด้วยกัน
1.จัดเก็บที่อุณหภูมิ -60 ถึง -90 °C อันนี้เก็บได้นานประมาณ 3 เดือน ซึ่งตามรพ.ทั่วไปไม่ได้มีตู้แช่ที่เย็นจัดขนาดนั้นทุกรพ. (ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าเค้าทยอยแจกจ่ายกัน)
2.ถ้าจัดเก็บที่ช่องฟรีซในตู้เย็นทั่วไปที่อุณหภูมิ -15 ถึง -25 °C อันนี้เก็บได้นานสูงสุดไม่เกิน 14 วัน (และสามารถนำกลับไปแช่แข็งที่อุณหภูมิ -60 ถึง -90 °C ได้อีก 1 ครั้ง)
3. ถ้าจัดเก็บที่ตู้แช่ปกติที่อุณหภูมิ 2 ถึง 8 °C (และมีการขนส่งที่ไม่เกิน 12 ชม.) สามารถเก็บไว้ได้นานสุด 31 วัน
ซึ่งตัวแปรอื่นๆที่จะให้วัคซีนเสื่อมค่าลงก็จะมีเรื่องของอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น รวมถึงการปล่อยให้วัคซีนโดนแสงแดดด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่วงแรกเค้าทยอยส่งวัคซีนมาให้ทีละหน่อยนี่แหละ
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมไม่รีบฉีดกันให้เสร็จๆไปทีเดียวเนี่ย สาเหตุมันเกิดจากวัคซีนไฟเซอร์เจอผลข้างเคียงเรื่องปวดหัวและเป็นไข้กันเยอะ เจ้าหน้าที่ก็เลยต้องเวียนต้องผลัดกันมาฉีด ถ้าขืนมาฉีดพร้อมกันหมดและป่วยพร้อมๆกัน ก็อาจทำให้ไม่มีคนทำงานวันรุ่งขึ้นได้
คือไม่ใช่ว่าเราจะฉีดวันเดียวให้เสร็จไม่ได้เพราะไม่มีกำลังคนนะ อันนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ป่วยแล้วไม่มีคนทำงาน อันนี้เพื่อนที่ขึ้นเวรจะงานงอกแทนนั่นเอง
ที่พูดนี่ไม่ได้จะปกป้องร้าบานอะไรนะ แต่แค่เล่าเรื่องไปตามความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น เพราะหมอเองก็ยังไม่ได้ฉีดไฟเซอร์เหมือนกัน ยังคงมีเพียงซิโนแวคในร่างกายสองเข็มตามเดิม
ขอบคุณข้อมูล เพจ หมอเวร