นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เช่น การสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในบ้าน หมั่นล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และการทำงานที่บ้าน (Work From Home) แล้ว การเลือก กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีโปรตีนและวิตามินสูงจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย ซึ่งวิตามินดีเป็นวิตามินที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ โดยมักพบในปลานิล ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลาแซลมอน ปลาแมคคอแรล ปลาทูน่ากระป๋อง ไข่แดง ตับ นม เห็ด เป็นต้น นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ปริมาณวิตามินดีที่เหมาะสมในแต่ละวัยต่อวันคือ วัย 6–12 เดือน ควรได้รับ 10 ไมโครกรัมต่อวัน วัย 1-70 ปี ควรได้รับ 15 ไมโครกรัมต่อวัน และวัยผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 20 ไมโครกรัมต่อวัน แต่หากได้รับวิตามินดีมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้เช่นกัน โดยเรียกภาวะนี้ว่า อาการเป็นพิษเนื่องจากได้รับวิตามินดีเกิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กวัยกำลังโต และในบางรายที่มีอาการหนักอาจจะเสียชีวิตจากการล้มเหลวของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้ แต่หากได้รับปริมาณที่น้อยเกินไปหรือขาดวิตามินดี จะส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกอ่อนในเด็ก และกระดูกอ่อนในผู้ใหญ่มีอาการชักหรือฟันผุ รวมถึงอาจทำให้ติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น และเมื่อติดเชื้อแล้วกลไกในการกำจัดเชื้อของร่างกายในคนที่มีวิตามินดีเพียงพอจะดีกว่าคนที่ขาดวิตามินดีอีกด้วย นอกจากนี้ ร่างกายยังสามารถรับวิตามินดีได้จากแสงแดดขณะทํากิจกรรมหรือออกกําลังกายกลางแจ้ง โดยให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 15-20 นาทีทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00–10.00 น. และ 16.00–17.00 น. “ทั้งนี้ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงนี้ วิตามินชนิดอื่น ๆ ทั่วไปก็สำคัญเช่นกัน จึงควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย เน้นการกินผักและผลไม้ เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ในการเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค พร้อมทั้งออกกําลังกายเป็นประจําสมํ่าเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด งดสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควบคู่กับการรักษามาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดก็จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว