เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ส.ค.64 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายพิทยา ชินนอก รักษาการประธานชมรมผู้ประกอบการเพื่อสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการร้านนวด เพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย สปา เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมติดตามความคืบหน้า ขอให้มีการช่วยเหลือลดค่าใช้ง่ายที่ต้องจ่ายในภาวะไม่สามารถเปิดกิจการและให้ผ่อนปรนการให้บริการนวดเท้าได้ และแนบรายชื่อผู้ประกอบการนวดแผนไทยจำนวน 72 แห่งที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ เป็นตัวแทนรับเรื่อง นายพิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) การสั่งปิดสถานที่ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พร้อมทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเละยอมรับผิดชอบคำใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ส่งผลให้ธุรกิจขาดสภาพกล่องอย่างรุนแรงและมีโอกาสที่ต้องปิดตัวลงหากไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ทันท่วงที ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกกำสั่งประกาศ ถึงเจ้าของห้องเช่า สถานที่เช่าให้มีการงดเว้นค่าเช่าในช่วงที่โดนปิดและลดคำเช่าในพื้นที่สีแดง จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น รวมทั้งขอผ่อนปรนให้สามารถให้บริการนวดท้าได้ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขียวยาผู้ประกอบการให้มีรายได้ประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด แต่ร้านเสริมสวย ที่มีความใกล้ชิดกับ ศีรษะผู้มารับบริการมากกว่า ซึ่งการนวดเท้า พนักงานนั่ง อยู่ห่างจากศีรษะผู้มารับบริการมากกว่ากลับสามารถทำได้ แต่นวดเท้าทำไม่ได้ และคลัสเตอร์ของโรคไม่เคยเกิดจากกลุ่มร้านนวด สปาด้วย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาและมีการทบทวนคำสั่ง ให้สถานประกอบการนวด สปา หรือสถานที่เพื่อสุขภาพ สามารถกลับมาเปิดได้ ที่ผ่านมาสถานประกอบการนวดไทย สปา และ สถานประกอบการสุขภาพ ได้มีการคัดกรองผู้มาใช้บริการอย่างเคร่งครัดตามระเบียบการสารารณสุข ด้าน นางภารดี พจนาภิมล ผู้ประกอบการร้าน สปา ศิราศรม อ.เมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการนวดแผนไทยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่เรามีความเข้าใจในสถานการณ์ระบาดของโรค แต่ขอให้ผ่อนปรน ปลดล็อกในบางพื้นที่ เช่น อ.เมือง วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 23 คน ขอให้ผ่อนปรนให้สามารถนวดเท้า ขอยืนยันว่าผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมมีมาตรการความปลอดภัยทุกขั้นตอน ป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เนื่องจากประสบปัญหารับภาระค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ และค่าแรงงานพนักงาน ที่ต้องจ่ายทุกเดือนโดยไม่มีรายได้ มานานกว่า 2 เดือน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กำลังจะตายกันหมด ไม่สามารถมีหนทางไปต่อไม่ได้ หากภาครัฐต้องการให้เราปิดร้าน ต้องช่วยเหลือโดยการเยียวยาให้ร้านละ 3 หมื่นบาท แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ผู้ประกอบการต้องได้คำตอบและแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการนวดแผนไทย หากเพิกเฉยเราจะรวมตัวเคลื่อนไหวกันโดยระดมผู้ประกอบการมาร่วมกันแสดงพลังเรียกร้องให้มากขึ้น