วันที่ 10 ส.ค. 64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่ามีการตรวจพบข่าวบิดเบือนเพิ่มเติม 1 กรณี คือ กรณีตรวจเชิงรุกชุมชนบ้านพักรถไฟหาดใหญ่ 1,000 คน พบติดเชื้อร้อยละ 40 นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับ เทศบาลนครหาดใหญ่ ยืนยันว่าเป็นข่าวบิดเบือน โดยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 การตรวจเชิงรุกนี้มีผู้ที่เข้ามารับการตรวจทั้งหมด 739 คน ขณะนี้ผลการตรวจด้วยวิธี ATK และ RT-LAMP พบผลเป็นบวก 6 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น.) และยังต้องรอผลการอ่านค่ายืนยันซ้ำที่ยังไม่เสร็จอีกจำนวนมาก จึงยังไม่สามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้ ถ้าผลการตรวจออกมาครบเรียบร้อยแล้ว ทางเทศบาลนครหาดใหญ่จะประกาศแจ้งให้ทราบทางหน้าเพจเฟซบุ๊กเทศบาลนครหาดใหญ่ ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากเทศบาลนครหาดใหญ่ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.hatyaicity.go.th หรือโทร 074200000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การตรวจเชิงรุกดังกล่าว มีผู้เข้ามารับการตรวจทั้งหมด 739 คน ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค. 64 ผลการตรวจด้วยวิธี ATK และ RT-LAMP พบผลเป็นบวก 6 คน แต่ยังต้องรอผลการอ่านค่ายืนยันซ้ำที่ยังไม่เสร็จอีกจำนวนมาก จึงยังไม่สามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”